ภาพลักษณ์ของภาคอีสานในอดีตมักถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่ยากลำบาก ดินแตก แร้นแค้น และผู้คนทุกข์ยาก แต่ในปัจจุบัน อีสานกลายเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยอาศัยรากฐานทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงมีนโยบายในการพัฒนาอีสานให้เป็น "อีสานใหม่" ที่มีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม

ก้าวสู่อนาคตด้วยพลังแห่งอดีต

ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การสร้างสรรค์เศรษฐกิจใหม่

มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีนโยบายชัดเจนในการพัฒนาอีสานให้เป็น "อีสานใหม่" ที่ขับเคลื่อนด้วยความเข้มแข็งทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นการต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การสร้างสรรค์เศรษฐกิจใหม่ ซึ่งเรียกว่า "Creative Economy" หรือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ด้วยการนำเอาศิลปะและวัฒนธรรมที่มีคุณค่ามาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในปัจจุบันและอนาคตในการขับเคลื่อนแนวคิดนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้รับการสนับสนุนจากนายกสภามหาวิทยาลัย ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ซึ่งมีนโยบายชัดเจนว่า "อีสานจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป" โดยได้อนุมัติงบประมาณในการปรับปรุงหอศิลปวัฒนธรรมชั้น 2 ให้เป็น "หอภาพยนตร์อีสาน" ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนวัฒนธรรมที่กินได้อยู่รอด

หอภาพยนตร์อีสาน: ศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ยั่งยืน

มหาวิทยาลัยขอนแก่นร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรทั่วประเทศ ได้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภาพยนตร์มาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี โดยมีมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นศูนย์กลาง ซึ่งมีพล็อตหนังสั้นและยาวกว่า 500 เรื่องให้ชอปปิ้งในอีก 6 เดือนข้างหน้าหอภาพยนตร์อีสานที่จะเกิดขึ้นจะเป็นพื้นที่จัดแสดงความเป็นมาของภาพยนตร์อีสาน และเป็นศูนย์กลางในการขยายสู่เชิงพาณิชย์ โดยมีการ "พิทชิง" (Pitching) ระหว่างเจ้าของบทหนังและนายทุน เพื่อนำเอาบทภาพยนตร์ไอเดียดีๆ จากนักศึกษาและมืออาชีพไปสู่การผลิตจริงนอกจากนี้ ยังมีแผนการจัดตั้ง "อคาเดมี่" (Academy) สถาบันสอนการทำหนังตั้งแต่ Pre-production, Production และ Post-production เพื่อสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และจะเปิดให้มีการชมภาพยนตร์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อสำเร็จ หอภาพยนตร์อีสานจะเป็นพื้นที่แรกในประเทศไทยที่เปิดแลกเปลี่ยนให้เมืองขอนแก่นเป็นศูนย์กลางภาพยนตร์ไทย และผลักดันให้ขอนแก่นเป็น "เมืองหนังอีสาน" สู่การเป็น "เมืองหนังโลก"

หอศิลป์มหาวิทยาลัยขอนแก่น: ศูนย์กลางการสร้างสรรค์และการค้าศิลปะ

ในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยขอนแก่นยังได้สร้างพื้นที่หอศิลป์ขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์กลางในการขายและต่อยอดทางการค้าสำหรับผลงานศิลปะ โดยมีการคัดเลือกผลงานของศิลปินอีสานอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน เพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขายมีความเชื่อมั่นและมั่นใจในคุณภาพของผลงานรองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า "มหาวิทยาลัยขอนแก่นคือพ่อค้าคนกลาง คือสถาบันที่น่าเชื่อถือ ช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อและผู้ขาย มีไลเซนส์ ประกันทุกอย่างถูกต้อง" โดยจะเริ่มแสดงผลงานของศิลปินอีสาน 40 คน อย่างเป็นทางการในช่วงเดือนธันวาคมนี้

การต่อยอดรากวัฒนธรรมสู่ความยั่งยืน

รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวว่า "เรามีรากอยู่แล้ว ถ้าอนุรักษ์อย่างเดียวมันก็แค่ทรงวันหนึ่งอาจจะทรุดและตายไปในที่สุด" ดังนั้น มหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงมุ่งเน้นการต่อยอดรากวัฒนธรรมให้มีชีวิตอยู่อย่างสง่างามและยั่งยืน โดยการนำเอาตำนานนิทานที่มีคุณค่ามารับใช้คนในปัจจุบันและอนาคต ผ่านการศึกษาและวิจัยเพื่อค้นหาคุณค่าและประยุกต์ใช้อย่างมีระบบและน่าเชื่อถือด้วยการดำเนินการดังกล่าว "อีสานใหม่" จึงจะไม่มีวันตาย แต่จะเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการผสมผสานระหว่างรากวัฒนธรรมที่มีคุณค่ากับการสร้างสรรค์เศรษฐกิจใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของคนในปัจจุบันและอนาคต