หลายคนเพิ่งรู้ “แม่หนู สรวงสุดา” เป็นหลานสาวแท้ๆ ของ “อาหลอง” ใช้ประสบการณ์ผู้ช่วยทำละครเรื่องแรกดังระเบิด!
Sep 17, 2024 at 5:28 PM
ความภาคภูมิใจของ "แม่หนู" ในการสืบทอดมรดกการสร้างสรรค์ละครจาก "อาหลอง"
ในงานสวดอภิธรรมคืนที่ 4 ของ "ฉลอง ภักดีวิจิตร" หรือ "อาหลอง" ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม ศาลา 10 "แม่หนู สรวงสุดา ชลลัมพี" หรือ "แม่หนู" ผู้จัดละครแห่งค่ายชลลัมพี ได้เปิดใจถึงคุณอาที่รัก ว่าเป็นเหมือนพ่อ และครูอาจารย์ ที่ช่วยสอนทุกอย่างมาตลอด 6 ปี จนได้มีละครเป็นของตัวเองในที่สุดประสบการณ์อันล้ำค่าที่ได้รับจาก "อาหลอง" ส่งผลให้ "แม่หนู" ประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์ละคร
การเป็นผู้ช่วยผู้จัดการของ "อาหลอง" ที่ทำให้ "แม่หนู" ได้รับวิชาการทำละครอย่างครบถ้วน
"ได้มาทำละครเพราะอาหลองนี่แหละค่ะ เป็นเหมือนอา เหมือนพ่อ เหมือนครูอาจารย์" "ตอนนั้นได้ไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการตั้งแต่เรื่อง ทอง ภาค 1-4 แล้วก็ เพชรตัดเพชร ล่าข้ามโลก ไปถ่ายที่อเมริกา ก็ผูกพันเยอะค่ะ" "สมัยก่อนมันมีผู้ช่วยผู้กำกับคนเดียวไง ไม่เหมือนสมัยนี้ ตระกูลเราทำหนังมาตั้งแต่รุ่นปู่ ก็ประสบความสำเร็จหลายเรื่อง น่าจะอยู่ในสายเลือดเลย" "ตอนนั้นคุณพ่อเป็นผู้กำกับ อาหลองเป็นตากล้อง เสาร์อาทิตย์เราก็จะไปอยู่กองแล้ว ก็ซึมซับมา เป็นหลานคนแรกที่มาทางนี้ ก็เป็นผู้ช่วยอาหลองมา จนกระทั่งแกบอกว่าเก่งขนาดนี้ ไปทำหนังเองได้แล้ว ก็เลยมาทำเองเป็นเรื่อง จำเลยรัก"ความท้าทายและการเรียนรู้ที่ "แม่หนู" ได้รับจากการทำงานร่วมกับ "อาหลอง"
"การทำงานร่วมกับอา เวลาเขาโมโหมากๆ เขาก็จะมีคำผรุสวาท แต่กับเราเขาจะไม่นะ มีแค่เฮ้ย ทำอย่างนี้ได้ไง แต่ถ้าเป็นคนอื่นก็ไปเลย" "การเป็นผู้ช่วยตอนนั้นก็ทำทุกอย่าง จดทุกอย่าง เพราะมันไม่มีโทรศัพท์ที่จะถ่าย เช่นพร็อพบนโต๊ะ ซีนนี้มีอะไรก็ต้องวาดรูปไว้ เหนื่อยมาก ตอนตัดต่อก็ต้องไปอยู่กับเขา" "เมื่อวานนี้มีนักข่าวคนหนึ่งมา บอกว่าไปเยี่ยมอาหลอง แล้วแกพูดว่าหลานสาวคนนี้เก่งมาก อาสอนทุกอย่างเหมือนพ่อ มุมกล้อง การจัดแสง ทำงานกับคุณอามา 6 ปี ได้รับวิชาทุกอย่างมาทั้งหมด"การนำประสบการณ์จาก "อาหลอง" มาใช้ในการสร้างสรรค์ละครของ "แม่หนู"
"เอาประสบการณ์มาใช้ เรื่องแรก จำเลยรัก ก็ดังระเบิดเลย เข้าโรงเฉลิมกรุงด้วย" "ส่วนอุปสรรคในความเป็นผู้หญิง คืออาจะทำหนังเกี่ยวกับป่า ทั้งปีก็อยู่ป่า แล้วเราเป็นผู้หญิงการเข้าห้องน้ำมันลำบากมากค่ะ โดยเฉพาะเวลามีประจำเดือน" "ทุกวันนี้เราก็เอาวิชามาถ่ายทอดให้ลูกๆ ตอนนี้เขาก็ทำละครกัน"ความผูกพันและความภาคภูมิใจในการได้รับการชมเชยจาก "อาหลอง"
"ไปเยี่ยมหลายหนค่ะ จนกระทั่งแกแย่แล้ว เราก็บอกว่าอาออกกำลังนิดหน่อยนะ ยกแขน นี่คือครั้งสุดท้ายที่ได้ไปเยี่ยม" "เขาชอบไปพูดกับคนอื่นว่าเราเก่งมาก เอาจากเขามาเยอะ เพราะน้องๆ เขาไม่มีใครทำ มีแต่เราที่ทำ เขาชมเราบ่อย จะดีใจเวลาเราไปหา"การสืบทอดมรดกการทำละครจาก "อาหลอง" สู่ลูกหลาน
"กู๊ด (เฉิดบุญ ภักดีวิจิตร) เขาก็ทำแล้วไง อยู่ช่อง 3 มีอยู่ทีหนึ่งอาเขาไปหาเราที่บ้าน ตอนที่ไม่ได้ทำช่อง 7 แล้ว เขาก็พูดตรงๆ บอกว่าให้หลานไปอยู่ช่อง 3 ได้ไหม อยากให้ไปทำช่อง 3 มากกว่า" "เราก็เลยพาไปหาคุณสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ก็ภูมิใจที่เขาสืบสานกันมาเรื่อยๆ อย่าให้มันหายไปเลย"ความเสียใจและความปรารถนาดีต่อ "อาหลอง" ในวาระสุดท้าย
"เฮ้อ…ขาดอาไปคน มาวันแรกนี่ร้องไห้ รดน้ำเสร็จก็ไปกราบเท้า เรานึกถึงช่วงเวลาที่อยู่กับเขา แล้วมันอดที่จะร้องไห้โฮไม่ได้" "บอกให้อาไปสู่สุคติ ขึ้นสวรรค์ไปเลย เพราะอาเหนื่อยมามากแล้ว เหนื่อยจริงๆ เขาทำงานทุกอย่างแบบต้องยิ่งใหญ่มาก ไม่กล้าถามเลยว่าได้กำไรไหม เขาทำด้วยใจ"