จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบรถคันดังกล่าวยังเป็นรถป้ายแดง. น.ส.เกศสินี ได้เช่ามาจากบริษัทแห่งหนึ่งตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แล้วนำมาขายให้กับนายธวัชชัยวันที่ 30 พฤศจิกายนและได้นำแผ่นป้ายทะเบียนสีขาวไม่ปรากฏผู้ครอบครองมาสวมแทน. ยังพบว่าเอกสารในการซื้อขายทั้งหมด ยังถูกปลอมแปลงขึ้นมาอีกด้วย.
นายธวัชชัย ผู้เสียหาย กล่าวว่า มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นเพราะมีการรับมอบรถกันที่โชว์รูม มีใบเสร็จ ใบซื้อขายครบทุกอย่าง. แต่หลังจาก 5 วันก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ. นอกจากนี้ยังมีคนอ้างว่าเป็นเซลล์มารับเงินดาวน์พร้อมกับออกใบเสร็จให้อีกด้วย. ซึ่งตอนที่รับรถ น.ส.เกศสินี ได้ให้กุญแจมาทั้ง 2 ดอก. ปรากฏว่ามีคนมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ พร้อมกับนำกุญแจมาด้วยอีก 1 ดอก. หลังจากนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์ความจริงว่าใครเป็นฝ่ายถูก ใครเป็นฝ่ายผิด.
สำหรับเรื่องนี้คิดว่า น.ส.เกศสินี ไม่ได้ทำเพียงคนเดียวอย่างแน่นอน. ต้องทำกันเป็นทีม มีคนรู้เห็นเกิน 2 คนขึ้นไป. ถ้าหากทำคนเดียวเขาคงไม่สามารถนำรถขึ้นไปที่โชว์รูมได้. อีกทั้งยังมีคนอ้างว่าเป็นเซลล์มารับเงินดาวน์พร้อมกับออกใบเสร็จให้อีกด้วย.
พ.ต.ท.เทวกฤต มณีรัตน์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.บางใหญ่ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้เสียหายเบื้องต้น สรุปได้ว่าตอนนี้มีอยู่ 4 กลุ่ม. กลุ่มแรกเป็นกลุ่มผู้ให้เช่ารถ ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของรถที่แท้จริง. กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มผู้เสียหายคือนายธวัชชัย ที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ในเขต สภ.บางใหญ่. ส่วนที่ 3 คือ เขตรับผิดชอบ สภ.บึงโขลงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งได้ทำการตรวจยึดรถไว้. ขณะนี้ทาง สภ.บึงโขลงหลง ได้นำรถส่งไปให้ พฐ.จ.ขอนแก่น ตรวจพิสูจน์รถว่ามีการต่อเติมดัดแปลงแก้ไขเลขตัวรถหรือไม่. ส่วนที่ 4 คือโชว์รูมรถแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เขตรับผิดชอบของ สภ.แม่โจ้.
จากการสอบปากคำผู้เสียหาย ให้การว่าได้มีการส่งมอบรถกันที่โชว์รูมรถ. ความผิดฐานฉ้อโกงที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ต้องหากับนายธวัชชัย เกิดขึ้นในเขตพื้นที่ สภ.แม่โจ้. พนักงานสอบสวนสภ.บางใหญ่ ก็ทำการจะสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จากนั้นจะส่งสำนวนการสอบสวนไปที่ สภ.แม่โจ้ ซึ่งเป็นเขตอำนาจรับผิดชอบ.
ในส่วนของผู้ให้เช่าได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในฐานความผิดยักยอกทรัพย์. ในส่วนของนายธวัชชัยผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความกับสภ.บางใหญ่ เป็นความผิดเกี่ยวกับเรื่องฉ้อโกง เพราะเอกสารการซื้อรถต่างๆอาจจะไม่ถูกต้อง. ทั้งนี้ต้องให้พนักงานสอบสวนทั้ง สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ และ สภ.แม่โจ้ ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป.
ถ้าตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นพยาบาลจริง แล้วแสดงตัวว่าเป็นพยาบาล ถือว่าไม่บริสุทธิ์ใจ จะเข้าข่ายฉ้อโกง. จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบเคยก่อเหตุมาแล้วหลายคดี. ตั้งแต่ปี2550 ที่สภ.วังน้อย, ปี2555 สน.คันนายาว และปี 2567 มีหมายจับที่ สน.ร่มเกล้า คดีลักทรัพย์. อยากให้ผู้ที่จะซื้อรถตรวจสอบเอกสารรถยนต์ เอกสารไฟแนนซ์ต่างๆให้ครบถ้วน ให้ถูกต้องก่อนที่จะโอนเงิน ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นอีก.