สรุปผลการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568

Apr 12, 2025 at 6:39 AM

กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดเผยรายงานสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยระบุว่าอุบัติเหตุในวันแรกของการรณรงค์ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อีกทั้งยังมีการเน้นย้ำถึงพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เช่น การขับรถเร็วเกินกำหนด และการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถ นอกจากนี้ยังมีการเตือนถึงผลกระทบจากการใช้ยาคลายกล้ามเนื้อซึ่งอาจทำให้ง่วงนอนระหว่างการเดินทาง

รายละเอียดการดำเนินงานและการป้องกันอุบัติเหตุ

ในวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2568 ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ในฐานะปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยในวันแรกของการรณรงค์ (11 เมษายน) มีการรายงานอุบัติเหตุรวมทั้งหมด 211 ครั้ง บาดเจ็บ 201 คน และเสียชีวิต 27 ราย ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ต่ำกว่าสถิติในปีที่ผ่านมา

จังหวัดที่มีสถิติอุบัติเหตุมากที่สุดคือ มุกดาหาร โดยมีจำนวน 11 ครั้ง ส่วนสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุยังคงมาจากความประมาทในการขับขี่ เช่น การขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด การตัดหน้ากระชั้นชิด และการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถ สำหรับมาตรการป้องกัน พบว่ามีการตรวจสอบและควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงผ่านด่านชุมชนกว่า 7,371 ด่าน ซึ่งสามารถตรวจพบผู้ไม่สวมหมวกนิรภัย 12,847 คน ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 5,137 คน และดื่มแล้วขับ 1,237 คน

นอกจากนี้ ยังมีการเตือนให้ผู้ขับขี่ระมัดระวังการใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนและลดสมรรถนะการขับขี่ได้ ทางกระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้พักผ่อนอย่างน้อย 10 นาทีหากมีอาการเหนื่อยล้าขณะเดินทาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

การดำเนินงานในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้รถใช้ถนน การเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในช่วงเทศกาลสำคัญจะช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุและความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้

มุมมองจากการรายงานข่าว

การที่สถิติอุบัติเหตุทางถนนลดลงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม เราควรตระหนักว่าการเดินทางอย่างปลอดภัยไม่ใช่เพียงแค่การปฏิบัติตามกฎจราจรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเตรียมความพร้อมทางกายภาพและจิตใจของผู้ขับขี่เอง การรับรู้ถึงผลกระทบของการใช้ยาหรือสารเสพติดก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรมีความเข้าใจ

ในฐานะประชาชน เราสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนได้โดยการใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การสวมหมวกนิรภัย การคาดเข็มขัดนิรภัย และการหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถ หากทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ การเดินทางในเทศกาลอื่น ๆ ก็จะปลอดภัยยิ่งขึ้น