ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์รวมในประเทศไทยลดลงอย่างชัดเจน โดยมียอดขายทั้งหมดเพียง 49,313 คัน เทียบกับปีที่แล้วลดลงถึง 6.7% ทั้งตลาดรถยนต์นั่งและรถเพื่อการพาณิชย์ต่างประสบกับความตกต่ำ ในขณะเดียวกัน ตลาด XEV ก็เริ่มแสดงสัญญาณที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (HEV และ BEV) ส่วนในเดือนมีนาคม คาดว่าตลาดจะทรงตัว แต่มีโอกาสฟื้นตัวได้จากการสนับสนุนทางเศรษฐกิจและการเปิดตัวโปรโมชันใหม่ๆ
มาตรการ "กระบะพี่ มีคลังค้ำ" และแพ็กเกจส่งเสริมการซื้อจากบริษัทรถยนต์หลายแห่งอาจช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย นอกจากนี้ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่และโปรโมชันที่น่าสนใจในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งสำคัญอาจเป็นแรงผลักดันให้เกิดการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
ตลาดรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์เผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดขายรวมลดลงกว่า 6.7% โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์นั่งและรถเพื่อการพาณิชย์ที่มียอดขายลดลงตามลำดับ แม้ว่าตลาด XEV จะเติบโตขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยความตกต่ำในตลาดหลัก
การวิเคราะห์ลึกไปยังยอดขายรายยี่ห้อพบว่า Toyota ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด แม้ยอดขายโดยรวมจะลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ Honda และ Isuzu ก็เผชิญกับความยากลำบากเช่นกัน โดยเฉพาะ Honda ที่ยอดขายลดลงอย่างมากในกลุ่มรถยนต์นั่ง ส่วนตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันก็แสดงแนวโน้มลดลงเช่นกัน ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบจากเศรษฐกิจและการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด
แม้ตลาดรถยนต์เดือนกุมภาพันธ์จะแสดงผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยดีนัก แต่เดือนมีนาคมมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากมาตรการสนับสนุนต่างๆ เช่น มาตรการ "กระบะพี่ มีคลังค้ำ" ภายใต้โครงการของ บสย. ที่ช่วยสนับสนุนการเงินสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย นอกจากนี้ โปรโมชันใหม่และรถยนต์รุ่นล่าสุดที่นำเสนอในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 46 อาจเป็นแรงผลักดันสำคัญในการกระตุ้นยอดขาย
มาตรการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระทางการเงินของผู้บริโภค แต่ยังสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยและ SMEs ที่มองหาทางเลือกในการลงทุนยานพาหนะเพื่อธุรกิจ นอกจากนี้ การเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่และการเสนอแพ็กเกจที่หลากหลายจากรถยนต์หลายยี่ห้อยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับตลาด นอกจากนี้ แนวโน้มการเติบโตของ XEV อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ในอนาคต