ผู้หญิงชาวอังกฤษคนหนึ่งวัย 58 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย เล่าเรื่องราวของเธอที่ได้รับประทานเฉพาะผลไม้มาเป็นเวลา 33 ปี ส่งผลให้เธอมีสุขภาพแข็งแรงดี แต่แพทย์เตือนว่าการทานแบบนี้อาจไม่เหมาะสมสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวาน ตับอ่อน และไต เนื่องจากผลไม้มีน้ำตาลสูง อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ
แอนน์ ออสบอร์น ได้รับแรงบันดาลใจจากการฟังบรรยายโดยเดวิด เชลลีย์ จนหันมาทานอาหารมังสวิรัติก่อนจะเปลี่ยนมาทานผลไม้อย่างเดียว หลังจากนั้นเธอได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินโดยค่อยๆลดอาหารทั่วไปลง ตอนเช้าเธอดื่มน้ำส้มสดสองแก้วหลังวิ่งเสร็จ มื้อกลางวันทานอะโวคาโด 2-3 ลูก และมื้อเย็นทานผลไม้ตามชอบ เช่น บลูเบอร์รี มะละกอ แตงโม เธอเผยว่าการทานแบบนี้ทำให้เธอสุขภาพแข็งแรง ไม่มีปัญหาทางร่างกาย
แอนน์กล่าวว่า การทานผลไม้ทุกมื้อทำให้เธอมีสุขภาพดีมาก แต่เธอก็ยอมรับว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทำได้ เธอได้ปรึกษากับแพทย์แล้วพบว่าผลการตรวจเลือดครั้งล่าสุดของเธอยังคงอยู่ในระดับปกติ แพทย์ชื่นชมว่าดัชนีคอเลสเตอรอลของเธอดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา รวมถึงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนโดยไม่มีอาการเชิงลบใดๆ เธอมีสุขภาพแข็งแรงและบาดแผลหายเร็ว แม้แต่ผมและเล็บของเธอก็ยาวเร็วมาก
แพทย์เตือนว่าการทานผลไม้เพียงอย่างเดียวอาจเป็นอันตรายสำหรับบางคน ผลไม้มีน้ำตาลสูง อาจทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ตับอ่อน หรือโรคไตมีปัญหาสุขภาพ แพทย์ยังกังวลเกี่ยวกับระดับวิตามินบี 12 แคลเซียม วิตามินดี ไอโอดีน และกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณต่ำ อาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง อาการเหนื่อยล้า เซื่องซึม และระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติได้
แพทย์แนะนำว่าหากใครสนใจในการเลือกทานผลไม้อย่างเดียวควรปรึกษาแพทย์เสียก่อน เพื่อตรวจสอบว่าร่างกายสามารถรองรับการทานแบบนี้ได้หรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบว่าร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนหรือไม่ แอนน์เองก็เห็นด้วยกับคำแนะนำของแพทย์ว่าไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการรับประทานอาหารประเภทนี้ เธอเชื่อว่าการทานผลไม้คุณภาพดีสามารถทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์