สงครามการค้าโลก: ผลกระทบต่อตลาดภาพยนตร์และนโยบายเศรษฐกิจ

Apr 11, 2025 at 9:28 AM
ในยุคที่ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างมหาอำนาจเป็นเรื่องปกติ การเคลื่อนไหวของแต่ละประเทศมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะกรณีล่าสุดที่สหรัฐอเมริกาประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีน ส่งผลให้จีนตอบโต้ด้วยมาตรการลดจำนวนการนำเข้าภาพยนตร์จากสหรัฐฯ สถานการณ์นี้ไม่เพียงแต่กระทบต่อสองชาติมหาอำนาจเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียรวมถึงประเทศไทย

ผลกระทบที่กว้างไกลจากการปรับเปลี่ยนนโยบายภาษีและการค้า

การตอบโต้ทางการค้าผ่านอุตสาหกรรมภาพยนตร์

เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา สำนักบริหารภาพยนตร์แห่งประเทศจีนได้ออกแผนการลดจำนวนการนำเข้าภาพยนตร์จากสหรัฐอเมริกาตามหลักการตลาดและความต้องการของผู้ชมชาวจีน การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ เพิ่มอัตราภาษีศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 145% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตอบโต้ที่มีเป้าหมายชัดเจน

แม้ว่าภาพยนตร์จะไม่ใช่สินค้าที่มีมูลค่าสูงเทียบเท่ากับอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น เทคโนโลยีหรือพลังงาน แต่การลดจำนวนภาพยนตร์ที่นำเข้ามาจากสหรัฐฯ สามารถมองได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงความไม่พอใจอย่างรุนแรงของจีนต่อมาตรการภาษีของสหรัฐฯ นอกจากนี้ จีนยังคงเดินหน้าสนับสนุนภาพยนตร์จากประเทศอื่นๆ เพื่อสร้างความหลากหลายในตลาดภาพยนตร์ภายในประเทศ

นโยบายภายในจีนเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านการค้า

นายเหอหย่งเฉียน โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน ได้เปิดเผยแนวทางในการสนับสนุนบริษัทการค้าระหว่างประเทศของจีนที่กำลังเผชิญกับความท้าทายจากการเพิ่มภาษีของสหรัฐฯ โดยเน้นไปที่การสำรวจตลาดภายในประเทศแทนการพึ่งพาตลาดต่างประเทศ

แนวทางเหล่านี้ประกอบด้วยโครงการแลกเปลี่ยนสินค้าอุปโภคบริโภค การทัวร์สินค้าคุณภาพจากต่างประเทศ และการบูรณาการระหว่างการค้าภายในและต่างประเทศ การดำเนินการดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ แต่ยังเป็นโอกาสในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจภายในประเทศ

ผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชียและประเทศไทย

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนไม่ได้มีผลกระทบเฉพาะต่อสองประเทศผู้มีส่วนร่วมเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะในด้านการค้าและการลงทุน การเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนทำให้ราคาสินค้าที่นำเข้าจากจีนมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดโลก

นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากสงครามการค้ายังอาจนำไปสู่การชะลอตัวของการลงทุนในภูมิภาค ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายประเทศในเอเชียต้องระมัดระวังและเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

บทบาทของความแน่นอนภายในประเทศต่อความเสี่ยงภายนอก

จีนได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าจะใช้ "ความแน่นอน" ภายในประเทศเพื่อปกป้องตัวเองจาก "ความไม่แน่นอน" ของสภาพแวดล้อมภายนอก โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและการค้า การดำเนินการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการควบคุมผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจภายในประเทศ

ความพยายามของจีนไม่เพียงแต่เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับประเทศอื่นๆ ในการจัดการกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นเครื่องเตือนถึงความสำคัญของการมีนโยบายภายในที่มั่นคงเพื่อรับมือกับความท้าทายจากภายนอก