เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโครงสร้างพื้นฐานและการเดินทางในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะระบบรถไฟฟ้าที่ถูกปิดบริการชั่วคราวเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย ประชาชนจำนวนมากต้องเผชิญกับความลำบากในการเดินทาง เนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะหยุดชะงักและถนนในหลายพื้นที่เต็มไปด้วยรถติดหนัก เช่น ถนนรัชดาภิเษกและถนนราษฎร์บูรณะ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเสาไฟล้มและอาคารบางแห่งได้รับความเสียหาย
ในช่วงเย็นของวันที่ 28 มีนาคม เมืองหลวงประสบกับปัญหาระดับวิกฤตหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.4 ใกล้ชายแดนเมียนมา ทำให้เกิดอาฟเตอร์ช็อกมากกว่า 20 ครั้ง ผลจากการสั่นสะเทือนทำให้โครงสร้างพื้นฐานหลายจุดเสียหาย เช่น เสาไฟฟ้าล้ม และอาคารบางแห่งต้องอพยพผู้คนออก รวมถึงรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ทั้งสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงประกาศระงับการให้บริการชั่วคราว
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า การตรวจสอบโครงสร้างทั้งหมดจะดำเนินการจนถึงเช้าวันถัดไป หากไม่มีปัญหาใด ๆ จะเปิดให้บริการตามปกติในวันที่ 29 มีนาคม อย่างไรก็ตาม หากพบปัญหาที่ยังไม่สามารถประเมินความเสี่ยงได้อย่างแน่ชัด อาจต้องขยายระยะเวลาการตรวจสอบออกไป
ในขณะเดียวกัน ถนนหลายสายในกรุงเทพฯ เช่น ถนนรัชดาภิเษกและถนนราษฎร์บูรณะ มีรายงานว่ารถติดยาวนานหลายชั่วโมง บางพื้นที่รถแทบไม่ขยับเลย เช่น รัชดาซอย 4 ซึ่งมีผู้ใช้รถแจ้งว่าติดอยู่บนถนนตั้งแต่เวลา 15.00 น. จนถึง 18.33 น. โดยไม่มีการเคลื่อนที่
ด้านประชาชนจำนวนมากเลือกที่จะเดินเท้าแทนการใช้รถยนต์ในเขตใจกลางเมือง เช่น บริเวณท่าอโศกและ MRT เพชรบุรี-Airport Link แม้ว่าจะมีรถไฟฟ้าผ่านแต่ละสถานี อย่างไรก็ตามผู้โดยสารเต็มทุกโบกี้
สำหรับพื้นที่รอบนอกของกรุงเทพฯ เช่น ถนนราษฎร์บูรณะที่นำไปสู่สมุทรปราการและพระประแดง ก็ประสบปัญหาการจราจรติดขัดตั้งแต่ช่วงเย็น
จากเหตุการณ์นี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมและแผนฉุกเฉินสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น แผ่นดินไหว ซึ่งอาจส่งผลกระทบทั้งทางเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน
เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทุกภาคส่วนในประเทศไทย โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐที่ควรพิจารณาปรับปรุงมาตรฐานโครงสร้างพื้นฐานและการวางแผนสำรอง เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การมีระบบขนส่งสาธารณะที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพจะช่วยลดความเสี่ยงและความยุ่งยากให้แก่ประชาชนในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน