ในยุคที่อุตสาหกรรมบันเทิงต้องเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค ผู้จัดละครมากฝีมือ "หนุ่ม อรรถพร" ได้เปิดเผยมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของวงการละครไทยในปัจจุบัน

ละครไทยกำลังปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง

ความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม

ในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา ผู้จัดละครอย่าง "หนุ่ม อรรถพร" ได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยระยะเวลาการทำละครต่อเนื่องลดลงจาก 2 เดือนเป็น 3-4 เดือน ส่งผลให้จำนวนละครที่ผลิตต่อปีลดลงไปครึ่งหนึ่ง และรายได้ก็ลดลงเกือบ 50% เช่นกัน หนุ่มเชื่อว่าปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสถานการณ์นี้คือ นายทุนหรือสปอนเซอร์ที่กระจายเงินไปลงทุนในช่องทางอื่น ๆ มากขึ้น เนื่องจากระบบการทำงานในวงการละคร-ซีรีส์เปลี่ยนไป

การปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง

ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ หนุ่มต้องปรับตัวอย่างมาก โดยต้องคิดโปรเจกต์ใหม่ ๆ เพื่อเสนอให้นายทุนลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเขาเปรียบเทียบว่าเหมือนกับการเป็น "หมาล่าเนื้อในทุ่งหญ้าสะวันนา" ที่ต้องออกไปล่าเนื้อกลับมาแบ่งปันในรังของตัวเอง นอกจากนี้ หนุ่มยังต้องหันไปทำงานในระบบสตรีมมิ่งมากขึ้น เพื่อให้ผลงานของเขาสามารถเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างได้มากขึ้น และยังต้องทำอาชีพอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อสร้างรายได้เสริม เนื่องจากความไม่แน่นอนในอาชีพนี้

ความท้าทายจากการควบคุมของหลายองค์กร

หนุ่มยังกล่าวว่า งานออกอากาศทางโทรทัศน์ที่ถูกควบคุมโดยหลาย ๆ องค์กร มีหลายเงื่อนไขและสร้างขีดจำกัดให้กับการสร้างละคร ทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย อย่างไรก็ตาม หนุ่มยืนยันว่า ละครไม่ได้ตายไป แต่เพียงแค่มันย้ายที่และเปลี่ยนวิธีคิด เพราะมันสามารถเล่าเรื่องได้ไม่สุดเหมือนสตรีมมิ่ง ทั้งในแง่ของภาพและอารมณ์ความรู้สึก

โอกาสใหม่ในยุคดิจิทัล

หนุ่มเชื่อว่ายังมีนักเล่าเรื่องและคนที่รักอาชีพนี้พร้อมที่จะทำงานให้ดีขึ้น แต่สิ่งที่ขาดไปคือการได้รับโอกาส เขาเชื่อว่าหากได้รับโอกาสนี้ สถานการณ์ของวงการละครไทยจะดีขึ้น เพราะไม่มีใครอยากทำร้ายบ้านตัวเอง ในยุคดิจิทัลนี้ ละครไทยมีโอกาสที่จะเติบโตและปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยการใช้ประโยชน์จากช่องทางสตรีมมิ่งและการสร้างสรรค์เนื้อหาที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ชมในปัจจุบัน