ละครเวที: การเปลี่ยนแปลงวงการความบันเทิงของคนไทยในช่วงสงคราม
Nov 14, 2024 at 2:00 AM
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศไทยต้องเผชิญกับความยากลำบากและการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ในช่วงเวลานั้น ละครเวทีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นสื่อความบันเทิงใหม่ให้กับคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะละครวิจิตรเกษมของนายบัณฑูรย์ องค์วิศิษฐ์ ซึ่งได้สร้างความแปลกใหม่และความประทับใจให้กับผู้ชมในยุคนั้น
ละครเวทีกับการเปลี่ยนแปลงวงการความบันเทิงของคนไทย
คณะละครวิจิตรเกษม: การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแสดง
ในช่วงก่อนสงคราม คณะละครวิจิตรเกษมของนายบัณฑูรย์ องค์วิศิษฐ์ เป็นคณะละครที่มีชื่อเสียงและได้สร้างความทรงจำถึงละครแบบใหม่ให้กับคนร่วมสมัย โดยมีการใช้นักแสดงชายจริงหญิงแท้เล่นให้ตรงตามเพศตัวละคร ซึ่งแตกต่างจากละครร้องก่อนหน้านี้ที่มักใช้นักแสดงชายรับบทหญิงเมื่อเกิดสงครามขึ้น ด้วยเหตุจากภาพยนตร์ใหม่ขาดแคลน นายบัณฑูรย์จึงคิดตั้งคณะละครวิจิตรเกษมขึ้นเข้าแสดงในโรงหนังแทนภาพยนตร์ที่ขาดแคลน โดยมีเป้าหมายให้กลุ่มคนจีนแถวเยาวราช สำเพ็ง ราชวงศ์เป็นกลุ่มผู้ชมหลัก เนื่องจากคนจีนไม่ค่อยอพยพออกจากพระนคร ด้วยห่วงกิจการค้า พวกเขาจึงน่าจะต้องการความบันเทิงเพื่อความหย่อนใจด้วยการเริ่มต้นและความสำเร็จของคณะวิจิตรเกษม
หลังจากที่นายบัณฑูรย์ขายไอเดียการแสดงละครแบบใหม่ให้แก้วฟ้า ทั้งคู่ก็ได้ไปดูงิ้วแถวเยาวราช และบัณฑูรย์ยังพาครูงิ้วมาสอนแก้วฟ้าให้มีความซาบซึ้งในอุปรากรจีน จากนั้น บัณฑูรย์ก็พาแก้วฟ้าไปพักที่โรงแรมตงเสียม เพื่อให้แก้วฟ้าเขียนบทละคร ออกแบบฉาก และซ้อมท่าทางตัวละครเมื่อแก้วฟ้าเขียนบทเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็ไปเช่าเวทีแสดงละครที่โรงภาพยนตร์แคปปิตอล แต่ปรากฏว่าผู้จัดการโรงไม่มั่นใจว่าละครชายจริงหญิงแท้จะทำเงินได้มากกว่าหนังญี่ปุ่นที่ฉายอยู่ จึงเรียกเงินประกันโรงจากบัณฑูรย์ ทำให้บัณฑูรย์ต้องไปหาเงินมาวางประกัน แต่เมื่อไปถึงผู้จัดการกลับปฏิเสธ ทำให้บัณฑูรย์ต้องไปติดต่อขุนสวัสดิ์ทิฆัมพร ผู้จัดการเฉลิมกรุง ซึ่งเมื่อฟังไอเดียก็ดีดมืออนุญาตให้ละครชายจริงหญิงแท้ของบัณฑูรย์เข้าแสดงที่เฉลิมกรุงทันทีการแสดงครั้งแรกของคณะวิจิตรเกษมในเรื่อง "นางบุญใจบาป" ประสบความสำเร็จมาก มีผู้เข้าชมอย่างล้นหลาม ทั้งชาวจีนในสำเพ็งและคนไทยที่ไม่อพยพ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกของการแสดงละครแบบชายจริงหญิงแท้ และเป็นจุดเริ่มต้นของการกำเนิดดาราละครเวทีในยุคนั้นความสำเร็จและความนิยมของคณะวิจิตรเกษม
ต่อมา คณะวิจิตรเกษมได้เข้าแสดงที่โอเดียน และเฉลิมนคร ด้วยเรื่องที่ดัดแปลงมาจากเรื่องนางไซซี และนางเตียวเสี้ยน อันเป็นหญิงงามนามกระเดื่องในพงศาวดารจีน โดยมีการตั้งชื่อใหม่ให้เป็นไทยเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชมทั่วไป เช่น "หญิงผู้พลิกแผ่นดิน" ซึ่งเป็นละครเรื่องดังที่ผู้คนครั้งนั้นจดจำได้มากหลังสงครามสิ้นสุด เฉลิมไทยของบัณฑูรย์เป็นที่นิยม คณะละครทั้งหลายต่างมาปักหลักแสดงกันที่เฉลิมไทยแทน ในขณะที่โรงอื่นๆ เปลี่ยนไปฉายภาพยนตร์กันหมด แต่ในที่สุด กระแสละครเวทีก็โรยลงโดยละครอำลาเรื่องสุดท้ายของเฉลิมไทยก่อนหันไปฉายภาพยนตร์แทน คือเรื่อง "พันท้ายนรสิงห์"ความเปลี่ยนแปลงของวงการละครเวทีหลังสงคราม
ภายหลังสงครามจบสิ้นลงแล้ว ในช่วงครึ่งแรกของทศวรรษ 2490 เป็นช่วงที่การแสดงละครเวทีเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก แต่จากนั้น จึงซบเซาลงด้วยภาพยนตร์ใหม่ๆ จากฮอลลีวู้ดเข้ามาแทนที่ ทำให้ละครเวทีค่อยๆ สูญเสียความนิยมลง แม้ว่าจะยังคงมีบทบาทสำคัญในวงการความบันเทิงของคนไทยในช่วงเวลานั้นในช่วงสงคราม ละครเวทีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นสื่อความบันเทิงใหม่ให้กับคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะละครวิจิตรเกษมของนายบัณฑูรย์ องค์วิศิษฐ์ ซึ่งได้สร้างความแปลกใหม่และความประทับใจให้กับผู้ชมในยุคนั้น ทั้งในด้านการใช้นักแสดงชายจริงหญิงแท้ และการนำเสนอเรื่องราวจากพงศาวดารจีนที่ดัดแปลงให้เข้ากับรสนิยมของคนไทย ทำให้ละครเวทีได้รับความนิยมอย่างมาก แม้ว่าในที่สุดก็จะค่อยๆ สูญเสียความนิยมลงเมื่อภาพยนตร์ใหม่ๆ เข้ามาแทนที่ แต่ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในวงการความบันเทิงของคนไทยในช่วงเวลานั้น