[รีวิว] Wicked Part 1

Nov 25, 2024 at 3:25 PM

‘Wicked Part 1’: สร้างความรักและความรู้สึกในโลกของ ‘Wizard of Oz’

‘Wicked Part 1’ เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมมากและเป็นหนึ่งในงานกำกับที่สำคัญของจอน เอ็ม ชู (Jon M. Chu). เรื่องราวในหนังเป็นการเล่าเรื่องราวของ 2 จอมเวทย์ คือ กาลินดา สาวโฉมงามและ เอลฟาบา ผู้มีผิวสีเขียวและสังคมรังเกียจ. นักแสดงในหนังเป็นผู้ที่มีความสามารถและมีความแตกต่างกันมากมาย เช่น อาเรียอานา แกรนเด, ซินเธีย เอริโวและมิเชล โหย่ว.

รีวิวและความคิดเห็น

ความดีงามของ ‘Wicked’ คงปฏิเสธ ‘ต้นฉบับ’ อย่างบทละครบรอดเวย์ที่ยอดเยี่ยม. ผู้กำกับจอน เอ็ม ชู (Jon M. Chu) ทำให้ ‘Wicked’ ในฉบับภาพยนตร์เป็นมากกว่าแค่ มิวสิคัลผ่านกล้องภาพยนตร์. การเลือกวัตถุดิบที่ทุกอย่างออกมาพอเหมาะพอเจาะคือกุญแจสำคัญอีกอย่างที่ทำให้ตัวหนังเข้าไปนั่งในใจผู้ชม. แม้ผู้ชมมิวสิคัลต้นฉบับมาแล้วก็ยังน่าจะแตะเลเวลน่าพึงพอใจหรืออย่างน้อยก็ไม่เสียดายของแหละน่า.

หลักฐานสำคัญที่ทำให้เห็นความฉลาดในการเลือกใช้ภาพของ ชู ปรากฎมันตั้งแต่เฟรมแรก ๆ ของหนังด้วยการให้ผู้ชมมองผ่านกล้องที่ลอยเหนือออซก่อนจะมีภาพคุ้นตาอย่างโดโรธีที่ออกเดินทางบนถนนอิฐเหลืองพร้อมเพื่อนหุ่นกระป๋อง สิงโต และหุ่นไล่กา. การใช้อภิสิทธิของ ‘ภาพยนตร์’ ในการเกริ่นนำเรื่องราวได้อย่างฉลาดด้วยกล้องที่เลื่อนผ่านเหมือนบอกคนดูว่านี่คือจักรวาลเดียวกับ ‘Wizard of Oz’ ที่หลายคนหลงรัก.

ดัดแปลงจากบรอดเวย์

ดัดแปลงจากบรอดเวย์ได้ไม่เสียของ อาเรียอานา แกรนเด กับ ซินเธีย เอริโว คือวัตถุดิบหลักและชูรสให้หนังได้ถึงเครื่องทั้งการแสดงและการร้องเพลง. เหล่านักแสดงในหนังยังถือว่าติ๊กถูกต้องได้แบบครอบจักรวาลในเช็กลิสต์. อาเรียอานา แกรนเด ก้าวข้ามพรมแดนของการเป็นนักร้องสู่นักแสดงคุณภาพได้อย่างงดงามทั้งที่เป็นบทนำครั้งแรก. ซินเธีย เอริโว ก้าวข้ามอคติคำก้นด่าจากบททิงเกิลเบลในปีเตอร์แพนฉบับดิสนีย์ที่จุดประเด็นก่อกระแสต่อต้านความโว้ค มาสู่การรับบท เอลฟาบา ที่สำคัญในฉากที่กาลินด้าและเอลฟาบ้าเดินทางถึงออซครั้งแรกและได้ชมการแสดงละครที่บอกเล่าเรื่องราวของพ่อมดออซ.

จุดเด่นของหนัง

งานวิฌวลตื่นตา คื่นใจ. มีงานพากย์ไทยที่น่าพึงพอใจ. ดัดแปลงจากบรอดเวย์ได้ไม่เสีย. นักแสดงมีความสามารถและมีความแตกต่างกันมากมาย.

อาเรียอานา แกรนเด และ ซินเธีย เอริโว ทำให้หนังมีชูรสและความแตกต่าง. เหล่านักแสดงในหนังยังสร้างความรักและความรู้สึกในเรื่องราว.

จุดสังเกตของหนัง

การทิ้งช่วงห่างระหว่างภาคอาจทำให้ผู้ชมลงแดงได้. เพลงภาษาไทยบางส่วนยังไม่ค่อยกลมกลืนกับทำนองต้นฉบับ.

หนังยังมีบางจุดที่ยังไม่สมบูรณ์เช่น การแปลเนื้อเพลงภาษาไทยบางจุด. แต่ก็ยังมีเพลง ‘Defying Gravity’ ที่ผู้ชมต่างยอมจำและปล่อยใจให้ฟินไป.

และหากจะรออีก 1 ปีกว่าที่หนังในภาคที่ 2 จะได้กลับมาฉายและร่ายมนตร์ให้ผู้ชมติดในภวังค์แบบนี้อีกนั่นแหละ.

กดที่ภาพเพื่อเช็กรอบฉายและซื้อบัตรชมภาพยนตร์