ความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างความบ้าคลั่งและความยุติธรรม ใน 'Joker Folie A Deux'

ห้าปีหลังจากที่ 'Joker' สร้างปรากฏการณ์ในวงการภาพยนตร์ ผู้กำกับ ท็อดด์ ฟิลลิปส์ กลับมาพร้อมกับภาคต่อ 'Joker Folie A Deux' ที่ขยายเรื่องราวของอาเธอร์ เฟล็กซ์ หรือโจ๊กเกอร์ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยเพิ่มเติมความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฮาร์ลี ควินน์ ที่ช่วยปลุกความเป็นวายร้ายในตัวเขาให้ตื่นขึ้นมา ท่ามกลางบรรยากาศของการพิจารณาคดีในศาล และการต่อสู้เพื่อเลือกตัวตนระหว่างอาเธอร์ เฟล็กซ์ กับโจ๊กเกอร์

ความบ้าคลั่งและความยุติธรรมที่ซับซ้อนกว่าที่เคย

การขยายเรื่องราวของ 'Joker'

'Joker Folie A Deux' ถือเป็นการกลับมาของอาเธอร์ เฟล็กซ์ ที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมหลังจากก่อเหตุฆาตกรรมในหนังภาคแรก เขาถูกส่งเข้าไปชดใช้ความผิดในเรือนจำแบล็คเกต ในขณะที่ต้องรับยาเพื่อรักษาอาการจิตเภทของตัวเอง แต่ในชีวิตประจำวัน เฟล็กซ์ก็ยังคงต้องทนทำตัวเป็นตัวตลกเพื่อเอาชีวิตรอด จนกระทั่งเขาได้พบกับฮาร์ลี ควินน์ ที่คลั่งไคล้ในวีรกรรมของโจ๊กเกอร์ และช่วยให้เฟล็กซ์ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป

ความสัมพันธ์ระหว่างเฟล็กซ์และควินน์

ความสัมพันธ์ระหว่างเฟล็กซ์และควินน์ถือเป็นไฮไลต์ที่สำคัญของหนังภาคนี้ การเปิดตัวของเรื่องราวในส่วนนี้สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมได้เป็นอย่างมาก ทั้งฉากจุดไฟเผาในห้องฉายหนัง และการตัดสลับกับฉากเซอร์เรียลที่เป็นจินตนาการของเฟล็กซ์ว่าได้อยู่เคียงคู่กับควินน์แล้ว นอกจากนี้ยังได้เสียงร้องสุดไพเราะของวาคิน ฟีนิกซ์ คู่กับเลดี้ กาก้า ในการขับขานเพลงคลาสสิกอย่าง 'To love somebody' ของวง Bee Gees ที่เพิ่มความคุ้นหูให้กับผู้ชมอีกด้วย

การพิจารณาคดีในศาล

เมื่อหนังพาเรื่องราวไปสู่การพิจารณาคดีในศาล ต้องยอมรับว่าการดำเนินเรื่องของหนังเริ่มก้ำกึ่งระหว่างการไม่พาผู้ชมกลับไปสำรวจเหตุการณ์ในหนังภาคแรก กับการพยายามทำให้เห็นอิทธิพลของควินน์ที่มีต่ออาเธอร์ เฟล็กซ์ ซึ่งในกรณีแรกยังพอเข้าใจได้ เพราะเรื่องราวภาคนี้คือการค้นหาว่าแท้จริงแล้ว เฟล็กซ์ มีแนวโน้มเป็นจอมทำลายล้างและกลายเป็นคู่อริแบทแมนได้หรือไม่ ส่วนกรณีหลังต้องยอมรับว่าหนังเองก็ไม่ได้ให้เวลาหรือข้อมูลเกี่ยวกับควินน์สักเท่าไหร่ ทำให้ตัวละครดูจะสำคัญน้อยลงตามเวลาที่หนังดำเนินเรื่องไป

ความคาดหวังของผู้ชม

แม้ว่าช่วงไคลแม็กซ์ของหนังจะมีความตูมตามและกระตุ้นเรื่องราวให้มีอะไรน่าตื่นเต้นขึ้นมา และแอบหวังจะได้เห็นโจ๊กเกอร์กับฮาร์ลีย์ ควินน์ร่วมกันเผาบ้านเผาเมืองก็อตแธมบ้าง แต่หนังก็เลือกให้ตอนจบหักหาญความคาดหวังผู้ชมแบบไม่รักก็เกลียดเลย ที่สำคัญคือยิ่งทำให้ตัวละครโจ๊กเกอร์ในหนังดูเป็นคนแปลกหน้าจากที่แฟน ๆ แบทแมนได้คาดหวังมาจากหนังภาคแรกโดยสิ้นเชิง