เหตุการณ์อุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ระหว่างขบวนรถไฟเร็วและรถยนต์กระบะที่ทางลักผ่านในเขตอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิต 4 ราย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เน้นย้ำความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎจราจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จุดตัดทางรถไฟ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุจำนวนมาก

รายละเอียดของเหตุการณ์

ในช่วงบ่ายของวันที่ 13 มีนาคม นายวีริศ อัมระปาล ในฐานะผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยได้แถลงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 14.49 น. ขบวนรถไฟเร็วที่กำลังเดินทางจากกันตังไปกรุงเทพฯ ได้พุ่งชนกับรถกระบะบริเวณทางลักผ่านที่ไม่ได้รับอนุญาตในเขตอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง แม้ว่าจะมีสัญญาณเตือนและไฟกะพริบเพื่อป้องกันการเกิดเหตุ แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการกระทำที่ผิดกฎได้

จากการตรวจสอบพบว่า ทางลักผ่านที่เกิดเหตุนั้นไม่ได้รับการอนุมัติจากรฟท. แต่ยังคงใช้งานโดยผู้ใช้ถนน รฟท.ได้ติดตั้งเครื่องหมายเตือนและการสื่อสารเพื่อความปลอดภัยอย่างครบครัน แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากผู้ใช้รถ

ปัจจุบัน มีจุดตัดทางรถไฟทั่วประเทศกว่า 2,600 แห่ง โดยบางแห่งยังคงเป็นทางลักผ่านที่ผิดกฎหมาย รฟท.จึงขอความร่วมมือจากประชาชนในการปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดจำนวนการบาดเจ็บและเสียชีวิต

รายงานระบุว่า รฟท.กำลังเร่งดำเนินการปิดทางลักผ่านที่ไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย และทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อปรับปรุงและอนุญาตให้ใช้ทางตัดที่มีความปลอดภัยมากขึ้น

จากกรณีนี้ รฟท.ย้ำเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยเฉพาะมาตรา 62 และ 63 ที่กำหนดให้ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถห่างจากทางรถไฟอย่างน้อย 5 เมตรหากเห็นสัญญาณเตือน

การรถไฟฯแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และยืนยันที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างความปลอดภัยในอนาคต

เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มความระมัดระวังของผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้เคียงทางรถไฟ การปฏิบัติตามกฎจราจรเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและประชาชนจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน