เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ได้เกิดเหตุรถบรรทุกบรรทุกสารเคมีขนาด 1,000 ลิตร ประสบอุบัติเหตุ ทำให้สารเคมีรั่วไหลและกระจายเกลื่อนถนน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รีบเข้าควบคุมสถานการณ์และดำเนินการกำจัดสารเคมีที่รั่วไหลอย่างเร่งด่วน

เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจส่งผลกระทบร้ายแรงได้ทุกเมื่อ

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ได้เกิดเหตุรถบรรทุก 10 ล้อ บรรทุกสารเคมีขนาด 1,000 ลิตร ประสบอุบัติเหตุ ทำให้สารเคมีรั่วไหลและกระจายเกลื่อนถนน ในบริเวณสี่แยกไฟแดงมาบเตย หมู่ 6 ต.ปลวกแดง จ.ระยอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รีบเข้าควบคุมสถานการณ์และดำเนินการกำจัดสารเคมีที่รั่วไหลอย่างเร่งด่วนจากการสอบสวน พบว่า รถบรรทุกดังกล่าวบรรทุกสารเคมีโซดาไฟเหลว ซึ่งเป็นของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง กำลังจะนำไปส่งให้กับโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จ.ชลบุรี แต่เมื่อถึงบริเวณสี่แยกรถเกิดเบรกแตก ทำให้ถังสารเคมีหล่นจากรถ ส่งผลให้สารเคมีรั่วไหลและกระจายเกลื่อนถนนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนขับรถไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ปลวกแดง และจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งดำเนินคดีกับทางบริษัท เกี่ยวกับการขนส่งวัตถุอันตรายโดยไม่มีใบอนุญาต

ความเสี่ยงจากการขนส่งสารเคมีอันตราย

การขนส่งสารเคมีอันตรายเป็นภัยคุกคามที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะเห็นได้ว่า แม้จะมีการควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลาดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันและควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น การตรวจสอบสภาพรถบรรทุก การตรวจสอบใบอนุญาตขนส่งวัตถุอันตราย รวมถึงการเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลการขนส่งสารเคมีอันตราย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน

บทบาทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ในการจัดการกับเหตุการณ์ดังกล่าว จะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการขนส่งวัตถุอันตราย เพื่อให้สามารถควบคุมสถานการณ์และดำเนินการกำจัดสารเคมีที่รั่วไหลได้อย่างทันท่วงทีนอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องมีการเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลการขนส่งวัตถุอันตราย โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการและกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน