ยุโรปเร่งเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า: ความท้าทายและโอกาสในตลาดรถยนต์ที่กำลังเปลี่ยนแปลง

Oct 22, 2024 at 6:21 AM

ยุโรปเร่งเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า แม้ตลาดรถยังซบเซา

ตลาดรถยนต์ในสหภาพยุโรป (EU) กำลังเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย ในขณะที่ผู้บริโภคเร่งเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด แต่ยอดขายรวมกลับหดตัวลง โดยเฉพาะในตลาดใหญ่อย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ที่ยังคงไม่มีทีท่าฟื้นตัว ทั้งนี้ ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของยุโรปต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งจากกำลังซื้อที่ซบเซาและการรุกคืบของรถยนต์จากจีน

ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้บริโภคในยุโรป

ยอดขายรถไฮบริดพุ่งขึ้นเป็นครั้งแรก

ตลาดรถยนต์ในสหภาพยุโรป (EU) กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน โดยรถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท (ทั้ง BEV, PHEV หรือ HEV) ครองส่วนแบ่งตลาดรถใหม่มากถึง 56.9% ในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นจาก 50.3% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะรถยนต์ไฮบริด (HEV) ที่ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 32.8% ในเดือนกันยายน ทำลายสถิติด้วยการแซงหน้ายอดขายรถน้ำมันเป็นครั้งแรกผู้ซื้อในยุโรปมองว่ารถยนต์ไฮบริดเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ไม่แพงเท่ารถไฟฟ้า 100% แต่ประหยัดกว่ารถน้ำมันทั่วไป ส่งผลให้ยอดขายรถไฮบริดพุ่งขึ้น 12.5% ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่รถน้ำมันกลับทรุดหนัก ยอดขายร่วงลง 17.9% เหลือส่วนแบ่งตลาดเพียง 29.8% เท่านั้น

รถไฟฟ้า 100% ยังคงเผชิญความท้าทาย

ในขณะที่รถยนต์ไฮบริดทำผลงานได้ดี แต่รถไฟฟ้า 100% (BEV) กลับขายได้น้อยลงในปีนี้ โดยยอดขายในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 9.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่หากมองภาพรวมตั้งแต่ต้นปี ยอดขายกลับหดตัว 5.8% สาเหตุหนึ่งมาจากแต่ละประเทศในยุโรปมีนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดไม่เหมือนกัน อีกทั้งทางการยังตั้งกำแพงภาษีสูงเพื่อกีดกันรถไฟฟ้าราคาถูกจากจีนอีกด้วย ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ตลาดรถไฟฟ้า 100% ในยุโรปยังคงเติบโตได้ช้า

ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของยุโรปต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน

ภาพรวมตลาดรถยนต์ใน EU ยังคงซบเซา โดยตัวเลขยอดขายรวมหดตัวลง 6.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะในตลาดใหญ่อย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ที่ยังคงไม่มีทีท่าฟื้นตัวค่ายรถยักษ์ใหญ่ของยุโรปอย่างโฟล์คสวาเกน สเตลแลนทิส และเรโนลต์ กำลังเจอศึกหนักสองด้าน คือนอกจากกำลังซื้อในตลาดที่ซบเซาแล้ว ยังต้องรับมือกับการรุกคืบของรถยนต์จากจีนอีกด้วย โดยล่าสุดเมื่อต้นเดือนนี้ ประเทศสมาชิก EU ได้ลงมติด้วยคะแนนเสียงฉิวเฉียดให้ขึ้นภาษีนำเข้ารถไฟฟ้าจากจีนสูงถึง 45% เพื่อตอบโต้การให้เงินอุดหนุนผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศของรัฐบาลจีนในขณะที่โฟล์คสวาเกนยังประคองตัวได้ โดยยอดจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.3% แต่สเตลแลนทิสกลับทรุดหนัก ยอดร่วง 27.1% ส่วนเรโนลต์ก็ไม่สู้ดีนัก ยอดขยับลง 1.5% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าค่ายรถยักษ์ใหญ่ของยุโรปต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับความท้าทายที่กำลังเผชิญอยู่