ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ประเทศไทยจะได้พบกับการเปิดตัวของรถยนต์ใหม่และเทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าที่มีระยะทางการขับขี่ไกลขึ้น ไปจนถึงระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ล้ำสมัย ผู้บริโภคจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่ไร้ที่ติ
ยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงวงการยานยนต์ในไทย
รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ที่จะเปิดตัวในไทย
ในช่วงปี 2024-2567 นี้ ผู้บริโภคชาวไทยจะได้พบกับการเปิดตัวของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่มีความโดดเด่นในด้านต่างๆ อาทิ ระยะทางการขับขี่ที่ยาวนานขึ้น ระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัย และความสะดวกสบายในการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น NETA X และ NETA V-II ที่จะเปิดตัวในไทยในปี 2024-2025 ซึ่งมีราคาจำหน่ายอยู่ในช่วง 899,000 - 949,000 บาท และมีระยะทางการขับขี่สูงสุดถึง 505 กิโลเมตรต่อการชาร์จนอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ที่จะเปิดตัวในไทย เช่น BYD DOLPHIN ที่มีราคาจำหน่ายอยู่ในช่วง 569,000 - 709,900 บาท และมีการประกอบในประเทศ, OMODA C5 EV ที่มีระยะทางการขับขี่ 505 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และมีราคาจำหน่ายอยู่ในช่วง 1.09 - 1.24 ล้านบาท, JAECOO 6 EV ที่เป็นรถออฟโรดไฟฟ้าที่มีทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวและมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ และมีราคาจำหน่ายอยู่ในช่วง 939,000 - 1,039,000 บาท, และ BYD Sealion 6 DM-i Plug-in Hybrid ที่เน้นการเพิ่มระบบความปลอดภัยมากขึ้น และมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 939,000 - 1,039,000 บาทรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ปรับปรุงใหม่ที่จะเปิดตัวในไทย
นอกจากรถยนต์ไฟฟ้า ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ยังมีรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ที่จะเปิดตัวในประเทศไทย อาทิ Ford Everest SPORT Adventure Pack + DAT Pack B ที่มีชุดแต่งพิเศษ และมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1.60 ล้านบาท, MG3 HYBRID+ ที่มีความประหยัดน้ำมันสูงถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร และมีราคาจำหน่ายอยู่ในช่วง 559,000 - 599,000 บาท, และ Honda Civic FE ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยมีระบบ BSM แต่ยังไม่มีการเปิดตัวในไทย และมีราคาจำหน่ายอยู่ในช่วง 1.03 - 1.23 ล้านบาทรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราที่จะเปิดตัวในไทย
ในช่วงเวลาเดียวกัน ผู้บริโภคชาวไทยจะได้พบกับการเปิดตัวของรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราระดับพรีเมียม อาทิ Mercedes-Benz EQS SUV ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 3 แถว 7 ที่นั่ง มีระยะทางการขับขี่ 658 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 5.99 ล้านบาท, Mercedes-Benz EQE 300 ที่มีระยะทางการขับขี่ 651 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และมีกำลังม้า 245 แรงม้า และมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3.97 ล้านบาท, และ ZEEKR X ที่จะเปิดตัวในไทยในเดือนกรกฎาคมนี้ และมีระยะทางการขับขี่ 445 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และคาดว่าจะมีราคาจำหน่ายอยู่ในช่วง 1.1 - 1.3 ล้านบาทรถยนต์ MPV และ SUV ใหม่ที่จะเปิดตัวในไทย
นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปรับปรุงใหม่แล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ยังมีรถยนต์ MPV และ SUV ใหม่ที่จะเปิดตัวในประเทศไทย อาทิ KIA EV5 ที่มีระยะทางการขับขี่ 490 - 665 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และมีราคาจำหน่ายอยู่ในช่วง 1.29 - 1.79 ล้านบาท, ISUZU MU-X ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยมีระบบ ADS ใหม่ 5 ระบบ และกล้อง 360 องศา และมีราคาจำหน่ายอยู่ในช่วง 1.18 - 1.75 ล้านบาท, และ MG MIFA 7 MPV ไฟฟ้าที่มีระยะทางการขับขี่ 570 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,769,000 บาทรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดรุ่นใหม่ของ BYD และ MG ที่จะเปิดตัวในไทย
ในช่วงเวลาเดียวกัน ยังมีรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดรุ่นใหม่ของ BYD และ MG ที่จะเปิดตัวในประเทศไทย อาทิ BYD SEAL, BYD DOLPHIN และ BYD ATTO 3 ที่มีราคาจำหน่ายตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพง, และ All-NEW MG 3 HYBRID ที่จะเปิดตัวในไทยกลางปีนี้ โดยมีกำลังม้า 194 แรงม้า และมีความประหยัดน้ำมันสูงถึง 22.7 กิโลเมตรต่อลิตรนอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ MPV ไฟฟ้า ZEEKR 009 ที่มีระยะทางการขับขี่ 822 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และจะเตรียมเปิดตัวในไทยในเดือนหน้า, และ ZEEKR X Premium SUV ไฟฟ้าที่มีระยะทางการขับขี่ 560 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และจะเปิดขายในไทยเดือนหน้า พร้อมกับการเตรียมประกอบในประเทศไทยรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ปรับปรุงใหม่อื่นๆ ที่จะเปิดตัวในไทย
นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ MPV/SUV ใหม่แล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ยังมีรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่อื่นๆ ที่จะเปิดตัวในประเทศไทย อาทิ Honda City 1.0 Turbo Hatchback ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ และมีราคาจำหน่ายอยู่ในช่วง 599,000 - 749,000 บาท, และ GAC AION HYPER HT ที่เป็นรถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าที่มีระยะทางการขับขี่ 770 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และคาดว่าจะเปิดตัวในไทยปีหน้าดังนั้น ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ผู้บริโภคชาวไทยจะได้พบกับการเปิดตัวของรถยนต์ใหม่และเทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีระยะทางการขับขี่ไกลขึ้น ระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ล้ำสมัย หรือรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ปรับปรุงใหม่ที่มีประสิทธิภาพและความประหยัดเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่ไร้ที่ติ