เมื่อไม่นานมานี้ มาร์เวล สตูดิโอได้จัดงานไลฟ์สตรีมที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและเซอร์ไพรส์สำหรับแฟน ๆ ทั่วโลก โดยเผยรายชื่อนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องใหม่ Avengers: Doomsday การไลฟ์ครั้งนี้ใช้เวลาเกือบห้าชั่วโมง เพื่อเปิดเผยข้อมูลสำคัญ เช่น การกลับมาของตัวละครคลาสสิกในบทบาทใหม่ รวมถึงการปรากฏตัวของนักแสดงระดับตำนานอย่าง เอียน แม็คเคลเลน และ แพทริก สจ๊วต นอกจากนี้ยังมีการแนะนำตัวละครใหม่ ๆ เช่น แกมบิต จากฝีมือการแสดงของ แชนนิง เททัม และสมาชิกทีมแฟนแทสติกโฟร์ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในภาพยนตร์

การเดินทางสู่อนาคตของจักรวาลมาร์เวล

ในวันที่ 26 มีนาคม ปี 2025 มาร์เวล สตูดิโอได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการไลฟ์สตรีมความยาวกว่า 5 ชั่วโมง ซึ่งเริ่มต้นในเวลาเที่ยงตรงตามเวลา EDT กิจกรรมดังกล่าวนำเสนอรายชื่อนักแสดงที่จะมีบทบาทในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Avengers: Doomsday โดยแต่ละช่วงเวลา 12 นาที จะมีการเปิดเผยชื่อใหม่ที่ทำให้ผู้ชมต้องประหลาดใจ โดยเฉพาะการกลับมาของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ในบทบาทใหม่ในฐานะ ด็อกเตอร์ดูม ซึ่งเป็นการพลิกบทบาทที่คาดไม่ถึง

การไลฟ์ยังได้เผยให้เห็นการผสมผสานระหว่างตัวละครเก่าและใหม่ รวมถึงการนำเอ็กซ์เม็นกลับมายังจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลด้วยแนวคิดมัลติเวิร์ส นอกจากนี้ยังมีการปรากฏตัวของตัวละครที่เคยถูกพูดถึงแต่ไม่มีโอกาสลงจอ เช่น แกมบิต ที่รับบทโดย แชนนิง เททัม อีกทั้งยังมีการเพิ่มทีมใหม่อย่างแฟนแทสติกโฟร์ที่จะเข้ามามีบทบาทในภาพยนตร์

ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นการรวมตัวของฮีโร่และวายร้ายที่คุ้นเคย แต่ยังเป็นการทดลองใหม่ในการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของหลายจักรวาล ซึ่งจะเปิดประตูสู่ภาพยนตร์ภาคต่อ Avengers: Secret Wars ในปี 2027

กำหนดฉายของ Avengers: Doomsday คือวันที่ 1 พฤษภาคม 2026 และจะมีการปล่อยผลงานเสริมอีกมากมาย เช่น Thunderbolts, Ironheart, Wonder Man และ Daredevil: Born Again ซีซัน 2

การเดินทางครั้งนี้ของมาร์เวลไม่ใช่แค่การสร้างความยิ่งใหญ่เหมือนเช่นเคย แต่ยังเป็นการทดสอบความสามารถในการเล่าเรื่องใหม่ที่สามารถดึงดูดใจผู้ชมในยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป

จากมุมมองของผู้เขียน การไลฟ์สตรีมครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการประกาศแผนการในอนาคตของมาร์เวล แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการขยายขอบเขตของจักรวาลภาพยนตร์ให้กว้างไกลมากขึ้น ผ่านการผสมผสานระหว่างตัวละครคลาสสิกและตัวละครใหม่ ๆ การใช้แนวคิดมัลติเวิร์สยังเปิดโอกาสให้ผู้กำกับและผู้เขียนบทสามารถเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อนและน่าติดตามมากขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับบริษัทผลิตภาพยนตร์อื่น ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานที่ทลายข้อจำกัดเดิม ๆ