ในละครนี้, มาช่าและแมท ภีรนีย์ ได้เชือดเฉือนบทบาทกันระหว่างตนเอง. มาช่าเป็นผู้เล่นบทที่มีความผิดและทำให้ลูกหลงเมียน้อยพ่อจนขาดสติ. การมั่วไปของบททำให้คนเริ่มเห็นว่ามันมีความผิดและไม่เหมาะสม. มาช่าเองก็ได้ยอมรับความผิดและตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา.
แมท ภีรนีย์ ในขณะนั้น, ได้รับตรง ๆ ไม่ชอบบทผกามาลินในละคร. การมั่วไปของบททำให้แมท ภีรนีย์ ถึงกับบอกตรง ๆ ว่า ผกามาลินในเรื่องบ้งเกินไปแล้ว. การมั่วไปของบททำให้ผู้ดูละครได้รับความผิดและไม่เหมาะสม.
จากการเชือดเฉือนบทบาทกันระหว่างแมท ภีรนีย์และมาช่า, บทเริ่มมั่วซั่วไปไกล. สรรค์ (ดอม เหตระกูล) ได้ไปได้กับ ชาลี เด็กผู้ชายวัย 18 ปีที่เป็นหลานของลิน ศัตรูตัวฉกาจของตัวเอง. บทลินที่เล่นโดยแมท ภีรนีย์ ก็เริ่มมั่วซั่วไปไกลจากที่ตอนแรกลินเป็นเมียน้อยของสรรค์. แต่ไป ๆ มา ๆ กลับไปได้กับ คธา ลูกของสรรค์และมาดามเคท, ทำให้ได้หมดทั้งพ่อทั้งลูก.
การเปลี่ยนแปลงของบทและความผิดพลาดทำให้ละครเริ่มออกทะเลและไม่เหมาะสม. การมั่วไปของบททำให้ละครไม่สามารถดำเนินไปได้ดีและทำให้ผู้ดูละครได้รับความผิดและไม่เหมาะสม.
การมั่วไปของบทในละคร "หวานรักต้องห้าม" ได้ผลกระทบต่อผู้ดูละครและผู้สร้างละครอย่างมาก. ผู้ดูละครอาจได้รับความผิดและไม่เหมาะสมจากการมั่วไปของบท. ผู้สร้างละครอาจได้รับความเสียหายจากการมั่วไปของบทและความขัดแย้งระหว่างผู้สร้างและผู้เล่นบท.
ดังนั้น, การแก้ไขและปรับปรุงบทในละครเป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้ละครเหมาะสมและดี. ผู้สร้างละครและผู้เล่นบทต้องมีความระมัดระวังและให้ความคิดถึงความผิดและความเหมาะสมของบท.