ภาพยนตร์ไทยสู่เวทีโลก: การสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ

วงการภาพยนตร์ไทยกำลังก้าวสู่ความสำเร็จระดับสากล โดยมีภาพยนตร์ไทยสองเรื่อง "หลานม่า" และ "อรุณกาล" ได้รับการคัดเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน 2024 ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่จะสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ เพื่อผลักดันให้ภาพยนตร์ไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก

ก้าวสู่ความสำเร็จระดับสากล

ภาพยนตร์ไทยสองเรื่องสร้างชื่อเสียงในเวทีนานาชาติ

ภาพยนตร์ไทยสองเรื่อง "หลานม่า" และ "อรุณกาล" ได้รับการคัดเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน 2024 ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอย่างมากสำหรับวงการภาพยนตร์ไทย โดยเฉพาะเรื่อง "หลานม่า" ที่ทำรายได้สูงสุดในประเทศ และยังโกยรายได้ในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่ 1,600 ล้านบาท สำหรับตลาดเกาหลีใต้นั้น การเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์นี้ถือเป็น Korea Premire ที่สำคัญ ในขณะที่ "อรุณกาล" ก็เป็นหนังเรื่องใหม่จากผู้กำกับซีรีส์เรื่อง "สืบสันดาน" ที่โด่งดังใน Nexflix มาแล้ว ซึ่งกำลังเดินสายฉายเปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติอย่างต่อเนื่อง

การสนับสนุนจากภาครัฐและหน่วยงานเอกชน

การที่ภาพยนตร์ไทยสองเรื่องนี้ได้รับการคัดเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน 2024 นั้น เป็นผลมาจากการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐและหน่วยงานเอกชน โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และ Thailand Creative Culture Agency (THACCA) ได้จัดงาน THAILAND NIGHT ขึ้น ณ โรงแรม Park Hyatt Busan เพื่อเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการไทยและต่างชาติได้พบปะและสร้างความร่วมมือกัน นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และซีรีส์ รวมถึงบริษัทที่ให้บริการเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์เข้าร่วมงานจำนวนมาก เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจและต่อยอดสู่การเป็นพาทเนอร์กับผู้ประกอบการต่างชาติ

ก้าวสู่ตลาดโลก

การที่ภาพยนตร์ไทยสองเรื่องนี้ได้รับการคัดเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน 2024 นับเป็นโอกาสอันดีที่จะสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ เพื่อผลักดันให้ภาพยนตร์ไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และ THACCA ยังได้สนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยการร่วมออกคูหาประเทศไทยภายในงาน Asian Contents & Film Market 2024 (ACFM) เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้มีพื้นที่ในการพบปะคู่ค้าและการเจรจาธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสให้ภาพยนตร์ไทยได้เข้าถึงตลาดต่างประเทศมากขึ้น