ภาพยนตร์อุโมงค์แห่งแสงสว่างในความมืด: ผลงานศิลปะเพื่อเฉลิมฉลองการรวมชาติ

Mar 24, 2025 at 11:35 PM

ภาพยนตร์เรื่อง "Tunnels: Sun in the Dark" เป็นผลงานที่กำกับโดย Bui Thac Chuyen และจะออกฉายในวันที่ 30 เมษายน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของการรวมชาติของเวียดนาม เรื่องราวในภาพยนตร์นี้สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และชีวิตของเหล่าทหารที่ได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญใต้พื้นดิน นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากและการสนับสนุนจากหลายฝ่ายในการผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยผู้กำกับใช้เวลาถึง 10 ปีในการวางแผนและเตรียมพร้อมสำหรับโปรเจ็กต์นี้ อีกทั้งยังมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนและความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับสงครามเวียดนาม

การเดินทางในเส้นทางการสร้างภาพยนตร์ของ Bui Thac Chuyen ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาเผชิญกับความท้าทายมากมายตลอดระยะเวลา 10 ปี แต่โชคดีที่เขาได้รับการสนับสนุนจากหลากหลายแหล่งทั้งภาครัฐและเอกชน ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงกลายเป็นสื่อกลางที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน นักธุรกิจ Nguyen Thanh Nam หนึ่งในผู้สนับสนุนหลักมองว่านี่ไม่ใช่แค่การลงทุนทางการเงิน แต่เป็นการลงทุนทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ การผสมผสานระหว่างศิลปะและเทคโนโลยีในภาพยนตร์ช่วยให้ผู้ชมได้สัมผัสกับบรรยากาศของสงครามอย่างแท้จริง

ในกระบวนการถ่ายทำ นักแสดงจำเป็นต้องเข้าร่วมการฝึกฝนที่เข้มงวดเป็นเวลาสองเดือนบนสนามฝึก เพื่อให้พวกเขาสามารถทำความเข้าใจชีวิตและสภาพจิตใจของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง ฉากสำคัญของภาพยนตร์ถูกสร้างขึ้นในสตูดิโอ Hoa Phu ในเมืองโฮจิมินห์ ซึ่งรวมถึงการจำลองอุโมงค์ใต้ดินและฉากการต่อสู้ที่ดุเดือดบนพื้นดินและแม่น้ำ นอกจากนี้ยังมีการนำอาวุธหนักที่เคยใช้ในสงครามเวียดนามมาใช้ เช่น รถถัง M-48 Patton และเฮลิคอปเตอร์ UH-1 Iroquois ทำให้การเผชิญหน้าในภาพยนตร์ดูสมจริงมากขึ้น

มุมมองของภาพยนตร์ถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนถึงประสบการณ์ของชาวเวียดนามโดยเฉพาะ โดยเน้นไปที่มุมมองของกองโจรที่ต่อสู้อยู่ใต้ดิน ผู้กำกับเลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวจากมุมมองระดับล่างสุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความอุตสาหะของประชาชนที่ต่อสู้กับกองทัพที่ทรงพลังที่สุดในโลกในขณะนั้น ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของสงครามเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้าใจและความภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลองความสำเร็จของอดีต แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงระหว่างคนรุ่นใหม่กับมรดกทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของชาติ ผู้กำกับและทีมงานหวังว่าภาพยนตร์จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเยาวชนที่อาจยังไม่ทราบรายละเอียดของสงครามเวียดนาม นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสในการแนะนำมุมมองใหม่ ๆ ของสงครามให้แก่ชาวต่างชาติที่เคยรับรู้มาจากภาพยนตร์ฮอลลีวูด