ในปี 2567 วงการภาพยนตร์เวียดนามได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากผลงานภาพยนตร์เรื่อง "Tunnel: Sun in the Dark" โดยภาพยนตร์ดังกล่าวสร้างแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงในช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 เรื่องราวของทหาร 21 นายที่ปฏิบัติภารกิจปกป้องฐานข่าวกรองภายในอุโมงค์ใต้ดินกู๋จี ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในบ็อกซ์ออฟฟิศและได้รับคำชมจากผู้ชมหลากหลายรุ่น โดยเฉพาะเยาวชนที่ให้ความสนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ผ่านงานสร้างสรรค์เชิงภาพ

เสียงสะท้อนจากหน้าจอสู่หัวใจ

ในบรรยากาศฤดูใบไม้ร่วงที่เต็มไปด้วยแสงแดดอ่อนๆ ภาพยนตร์ "Tunnel: Sun in the Dark" กำลังเขย่าอารมณ์ของผู้ชมทั่วประเทศ ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากการเปิดฉายครั้งแรก ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถแซงหน้าความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องก่อน ๆ เช่น "Peach, Pho and Piano" และกลายเป็นปรากฏการณ์ทางภาพยนตร์ที่โดดเด่นที่สุดแห่งปี การกำกับโดย Bui Thac Chuyen และการสนับสนุนจากนักธุรกิจ Nguyen Thanh Nam ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยพลังและความลึกซึ้ง

ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของทหารกลุ่มเล็ก ๆ ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่อันตรายภายใต้การโจมตีอย่างหนักจากกองกำลังสหรัฐฯ อุโมงค์กู๋จี สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เคยถูกโจมตีด้วยอาวุธหนักจำนวนมาก แต่ยังคงยืนหยัดในฐานะฐานที่มั่นที่แข็งแกร่ง ภาพยนตร์นำแสดงโดย Thai Hoa, Cao Minh, Ho Thu Anh และนักแสดงอีกหลายคน ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากผู้ชมทั้งในเรื่องการแสดงและการถ่ายทอดอารมณ์

นอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญในวงการภาพยนตร์ เช่น ผู้กำกับ Phi Tien Son ที่ชื่นชมภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าไม่เพียงแต่สะท้อนความกล้าหาญของทหารในอดีต แต่ยังเป็นเครื่องมือในการเชื่อมโยงระหว่างคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ นอกจากนี้ศิลปินแห่งชาติ Xuan Bac ยังได้แบ่งปันความประทับใจของเขาเมื่อได้เห็นการทำงานของผู้กำกับ Bui Thac Chuyen ที่เน้นการกระทำมากกว่าคำพูด

บทเรียนแห่งความเป็นมนุษย์

ภาพยนตร์ "Tunnel: Sun in the Dark" ไม่ใช่เพียงแค่การนำเสนอเรื่องราวสงครามเท่านั้น แต่มันยังเป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ผ่านการแสดงที่สมจริงและการถ่ายทอดภาพที่ทรงพลัง มันสอนให้เราเห็นคุณค่าของเสรีภาพและความสงบสุขที่เราได้มาในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาติและรักษาค่านิยมทางมนุษยธรรมที่ดั้งเดิมไว้อย่างแน่วแน่