ปลดล็อกความรุนแรงทางเพศในวงการกีฬา: ก้าวสู่ Safe Sport ที่เป็นรูปธรรม

Oct 28, 2024 at 11:01 PM
Slide 4
Slide 1
Slide 2
Slide 3
Slide 4
Slide 1
ผู้หญิงมากกว่า 1 ใน 3 ทั่วโลกเคยผ่านประสบการณ์ถูกทำร้ายร่างกาย หรือถูกคุกคามทางเพศอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ข้อมูลที่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุในรายงานจากการศึกษาเรื่องความรุนแรงในผู้หญิงอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จาก 161 ประเทศช่วงปี 2000-2018

ก้าวสู่การสร้างวงการกีฬาที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน

ความร่วมมือเพื่อยุติปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในวงการกีฬา

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดย กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ได้ระดมความร่วมมือกับองค์กรด้านการกีฬา นำไปสู่การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่อง "การป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการกีฬา" นำร่องใน 21 สมาคมกีฬาและภาคีเครือข่ายกว่า 40 หน่วยงาน เพื่อร่วมกันผลักดันสิทธิความเท่าเทียมและปกป้องการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการกีฬา ทำให้การกีฬาเป็นพื้นที่ปลอดภัยของคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะ

ความคาดหวังต่อการเปลี่ยนแปลงในวงการกีฬา

ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า คาดหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการ Kick-off ความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในวงการกีฬา นำปัญหาที่ถูกซุกซ่อนอยู่ หยิบยกขึ้นมาเป็นวาระสำคัญทางสังคม และร่วมกันผลักดันมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือการคุกคามทางเพศให้เกิดขึ้นในวงการกีฬาบ้านเรา สร้างบรรยากาศการทำงานและการแข่งขันที่เคารพในสิทธิมนุษยชนนำไปสู่ Safe Sport ที่เป็นรูปธรรม

การเยียวยาและการป้องกันปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ

นางสุดา สุหลง รองอธิบดี สค. กล่าวว่า ปี 2563 มติ ครม.เห็นชอบให้ สค.ตั้งศูนย์ประสานการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน (ศปคพ.) แต่ที่ผ่านมามีเคสที่เข้ามาขอความช่วยเหลือค่อนข้างน้อย อย่างที่ทราบการคุกคามทางเพศเหมือนเป็นภัยมืด ภัยเงียบ บางครั้งผู้ถูกกระทำไม่กล้าบอกกล่าวให้คนอื่นทราบ สิ่งที่เราคำนึงมากที่สุดคือกลุ่มเด็กเยาวชนนักกีฬาซึ่งอาจจะถูกล่วงละเมิด ที่สำคัญคือถูกกระทำซ้ำโดยไม่มีใครช่วยเหลือคุ้มครองได้ ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่จุดประกายเรื่องนี้ให้กับ พม. จนนำไปสู่การแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนความเสมอภาคระหว่างเพศในวงการกีฬา และจะตั้งคณะทำงานอีก 3 ด้านคือ ด้านการสร้างความตระหนักรู้ ด้านการช่วยเหลือเยียวยาและการคุ้มครองพิทักษ์สิทธิให้กับผู้เสียหาย และการจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์

การผลักดันมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาในวงการกีฬา

นายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า ทั้งผู้ฝึกสอน นักกีฬาด้วยกันเอง บุคลากรอื่นไม่ว่าจะเป็นแพทย์ นักกายภาพ หมอนวด ล้วนมีโอกาสสัมผัสต้องตัวนักกีฬา แต่ ทำอย่างไรให้เป็นการกระทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่เป็นการล่วงล้ำซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งที่เราอยากให้เกิดขึ้นในวงการกีฬา จึงเป็นสิ่งที่ดีที่ 21 สมาคมกีฬาและกว่า 40 เครือข่ายมาร่วมลงนามครั้งนี้ ซึ่ง กกท.จะส่งข้อมูลชักชวนสมาคมต่างๆเป็นแนวร่วมเพิ่มขึ้น และจะนำประเด็นการคุกคามและการล่วงละเมิดทางเพศมาเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดประเมินมาตรฐานของสมาคมกีฬาต่อไป