เดวิด ลิตช์ ผู้ร่วมสร้าง 'John Wick' (2014) ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter เนื่องในวาระครบรอบ 10 ปี ของภาพยนตร์ต้นฉบับ เขาเปิดเผยเบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์ที่กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก รวมถึงการพิจารณาให้ บรูซ วิลลิส รับบทนำในตอนแรก ก่อนที่ คีอานู รีฟส์ จะเข้ามารับบทนี้ไปจนจบ

ปรากฏการณ์ 'John Wick' ที่ทำลายกฎเกณฑ์ภาพยนตร์แอ็กชัน

การพิจารณาให้ บรูซ วิลลิส รับบทนำ

ลิตช์และ แชด สตาเฮลสกี ผู้ร่วมกำกับ 'John Wick' เปิดเผยว่า ในช่วงแรกของการพัฒนาโปรเจกต์นี้ พวกเขาเคยวางตัวให้ บรูซ วิลลิส มารับบทอดีตนักฆ่ามือพระกาฬที่เป็นพระเอกของเรื่อง เนื่องจากวิลลิสมีผลงานการแสดงที่น่าประทับใจมากมาย ทั้ง 'Die Hard', ซีรีส์ 'Moonlighting', 'Pulp Fiction' และ 'The Sixth Sense' แม้ในตอนนั้นจะอยู่ในวัยย่างเข้าหลัก 60 ปี แต่เขาก็ยังได้รับบทแอ็กชันที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง เช่น 'RED', 'The Expendables 2', 'Looper 2', 'A Good Day to Die Hard', 'G.I. Joe: Retaliation' และ 'RED 2' ซึ่งทำให้ผู้สร้างมองว่าเขามีศักยภาพมากพอจะรับบทนี้ได้เป็นอย่างดีอย่างไรก็ตาม ลิตช์และสตาเฮลสกีมองว่า คีอานู รีฟส์มีความเหมาะสมในช่วงวัยมากกว่า และรีฟส์ยังเป็นผู้ผลักดันโปรเจกต์นี้ด้วย นอกจากนี้ สตาเฮลสกีเคยดูแลงานสตันท์ให้กับรีฟส์ในแฟรนไชส์ 'The Matrix' จึงทำให้พวกเขามองว่าสามารถนำเสนอภาพลักษณ์ของรีฟส์ให้ผู้ชมเชื่อว่าเป็น John Wick ได้อย่างสนิทใจมากกว่า

การเข้ามาของ คีอานู รีฟส์

ในที่สุด คีอานู รีฟส์ได้เข้ามาติดต่อกับลิตช์และสตาเฮลสกี พร้อมกับบทในมือ แม้ว่าในตอนนั้นพวกเขาจะได้วางโครงงานกับ เบซิล ไอวานิค และ ปีเตอร์ ลอว์สัน ที่บริษัท Thunder Road ไปแล้ว แต่ลิตช์และสตาเฮลสกีก็ทราบดีว่าพวกเขามีศักยภาพมากเกินกว่าจะทำหน้าที่แค่ผู้ช่วยเขียนบท จึงได้รับการผลักดันจาก เคลลี แมคคอร์มิก ให้มาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับเมื่อรีฟส์เข้ามาพร้อมกับบทในมือ พวกเขาจึงได้เสนอวิสัยทัศน์ของตนเองต่อ Thunder Road ว่าบทที่เขียนโดย ดีเร็ค โคลสตาด ควรเป็นไปในทิศทางใด จากการเตรียมตัวเป็นอย่างดี และโอกาสอันน่าเหลือเชื่อ ทำให้ลิตช์และสตาเฮลสกีได้กำกับ 'John Wick' ในท้ายที่สุด

ความสำเร็จของ 'John Wick'

'John Wick' ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก ด้วยการสร้างสรรค์ภาพยนตร์แอ็กชันที่แตกต่างจากที่เคยเห็น ด้วยการนำเสนอการต่อสู้และการแสดงบทบาทของ คีอานู รีฟส์ ที่ทำให้ผู้ชมเชื่อว่าเขาคือ John Wick อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้สร้างโลกของ John Wick ขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบฉากและการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้ง ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในโลกของเขาจริงๆความสำเร็จของ 'John Wick' ยังส่งผลต่อวงการภาพยนตร์แอ็กชันอย่างมาก โดยได้สร้างแนวทางใหม่ในการสร้างภาพยนตร์ประเภทนี้ ด้วยการให้ความสำคัญกับการออกแบบฉาก การต่อสู้ และการแสดงบทบาทของนักแสดงนำ ซึ่งแตกต่างจากภาพยนตร์แอ็กชันแบบดั้งเดิมที่มักเน้นเรื่องการระเบิด การยิง และการไล่ล่า ทำให้ 'John Wick' กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แอ็กชันที่มีอิทธิพลต่อวงการมากที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา