ประกาศ 10 หนังไทยขึ้นทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ ปี 2567
Oct 7, 2024 at 8:54 AM
ภาพยนตร์ไทยได้รับการยกย่องเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า
ในวันอนุรักษ์ภาพยนตร์ไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศรายชื่อภาพยนตร์ 10 เรื่องที่ได้รับการคัดเลือกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติ ประจำปี 2567 ซึ่งสะท้อนถึงความหลากหลายและความสำคัญของภาพยนตร์ไทยในฐานะสื่อที่บันทึกประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศภาพยนตร์ไทยคือมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าและควรได้รับการอนุรักษ์
การขึ้นทะเบียนภาพยนตร์เป็นมรดกของชาติ
การขึ้นทะเบียนภาพยนตร์เป็นมรดกของชาติเป็นกิจกรรมสำคัญที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างการตระหนักถึงความสำคัญของงานอนุรักษ์ภาพยนตร์ในฐานะความทรงจำและบันทึกประวัติศาสตร์ของประเทศ กระบวนการคัดเลือกภาพยนตร์ที่จะได้รับการขึ้นทะเบียนนั้น เชิญกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขาอาชีพมาร่วมพิจารณา โดยรายชื่อหนังส่วนหนึ่งมาจากการเสนอโดยประชาชน ร่วมกับรายชื่อภาพยนตร์อีกส่วนที่มาจากคลังอนุรักษ์ของหอภาพยนตร์ ซึ่งในปีนี้มีภาพยนตร์ทั้งหมด 253 เรื่องที่ได้รับการพิจารณาภาพยนตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของชาติ
ในปี 2567 มีภาพยนตร์ 10 เรื่องที่ได้รับการคัดเลือกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติ ซึ่งครอบคลุมหลากหลายมิติทางสังคม ประวัติศาสตร์ และสุนทรียศาสตร์ อาทิ "สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีทรงอัญเชิญพระบรมอัฐิ ร.๗ จากลอนดอนกลับประเทศไทย", "รายงานการสำรวจทางโบราณคดี ณ กรุงสยาม ๒๔๗๑", "พิธีเคารพพระศพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ ที่เมืองบันดุง", "น้อยไจยา" หนังโศกนาฏกรรมที่สร้างจากบทละครสำคัญของล้านนา, "สามพราน" หนังที่สร้างโดยกรมตำรวจไทย, "บ๊าย..บาย ไทยแลนด์" หนังเล่าเรื่องชีวิตคนอีสานช่วงปี ๒๕๓๐, "คนกราบหมา" ภาพยนตร์แนวเสียดสีสังคม และ "กระเบนราหู" หนังไทยเรื่องแรกที่ชนะรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์เวนิสความสำคัญของการอนุรักษ์ภาพยนตร์ไทย
การขึ้นทะเบียนภาพยนตร์เป็นมรดกของชาติสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ภาพยนตร์ไทย ซึ่งเป็นสื่อที่บันทึกประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศ ภาพยนตร์ไทยมีความหลากหลายและสะท้อนมิติทางสังคม ประวัติศาสตร์ และสุนทรียศาสตร์ที่สำคัญ การอนุรักษ์และสืบทอดภาพยนตร์เหล่านี้จึงเป็นการรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าและสะท้อนถึงรากฐานของความเป็นไทย ซึ่งจะช่วยให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และเข้าใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาติได้อย่างลึกซึ้ง