บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นได้เผยโฉมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในสภาพแวดล้อมจริงของเมืองใหญ่เป็นครั้งแรก โดยการทดลองนี้เกิดขึ้นในเขตมินาโตะมิไร เมืองโยโกฮามา ซึ่งเป็นการทดสอบรถโดยไม่มีผู้ควบคุมบนถนนสาธารณะท่ามกลางสภาพจราจรที่ซับซ้อน การพัฒนานี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ยังสะท้อนถึงความพยายามแก้ไขปัญหาด้านขนส่งในสังคมสูงวัยของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังเตรียมพร้อมสำหรับการขยายบริการไปสู่ตลาดโลกในอนาคต
การทดลองครั้งสำคัญนี้ใช้รถยนต์รุ่นเซเรน่าที่ได้รับการปรับแต่งด้วยกล้อง เรดาร์ และ LiDAR ในจำนวนที่มากกว่ารุ่นก่อน เพื่อให้สามารถตรวจจับสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำและครอบคลุม นอกจากนี้ยังมีการเสริมความสามารถด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ช่วยในการคาดการณ์พฤติกรรมและการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดในสถานการณ์ที่ซับซ้อน ทั้งนี้ นิสสันยังคงเน้นย้ำถึงความปลอดภัยสูงสุด โดยการตรวจสอบเส้นทางและเพิ่มฟังก์ชันหยุดฉุกเฉินเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
บริษัทได้วางแผนที่จะขยายการทดสอบด้วยรถยนต์จำนวนมากภายในปีงบประมาณ 2025-2026 โดยทำงานร่วมกับเทศบาลเมืองโยโกฮามาและหน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม รวมถึงกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยว ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานบริการขับเคลื่อนอัตโนมัติในระดับเชิงพาณิชย์
เมื่อมองไปถึงปีงบประมาณ 2027 นิสสันหวังที่จะเปิดตัวบริการดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบ โดยอาศัยการสนับสนุนจากระยะไกลและการทำงานร่วมกับภาคธุรกิจขนส่งในท้องถิ่น ความสำเร็จนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ยังส่งผลต่อวิถีการเดินทางของคนในสังคมยุคใหม่