ความหวังในการคว้าเหรียญทองกำลังเผชิญกับอุปสรรคใหญ่จากโครงสร้างระบบแข่งขันในประเทศ นักกีฬาเยาวชนหลายคนที่มีศักยภาพเพียงพอสำหรับการแข่งขันระดับภูมิภาคกลับถูกผูกพันอยู่กับการลงสนามในลีกภายในประเทศ สถานการณ์นี้ได้ทำให้ทีมชาติไทย U22 ประสบปัญหาในการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ ในอดีต ทีมชาติไทยเคยพลาดโอกาสสำคัญหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบชิงชนะเลิศของซีเกมส์ ครั้งที่ 31 และ 32 ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ว่าความกดดันและความท้าทายเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย

ขณะเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้านเช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการแข่งขันภายในประเทศเพื่อสนับสนุนทีมเยาวชนอย่างเต็มที่ การกระทำเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและแผนการระยะยาวที่ชัดเจน ในทางตรงกันข้าม ประเทศไทยยังคงเผชิญกับข้อจำกัดจากการจัดการที่แตกต่างกันระหว่างสโมสรและสมาคมฟุตบอล ซึ่งส่งผลให้การปล่อยตัวนักเตะไปร่วมทีมชาติกลายเป็นเรื่องยาก นอกจากนี้ การที่ซีเกมส์ไม่ได้รวมอยู่ในปฏิทิน FIFA Days ยิ่งทำให้ปัญหานี้ซับซ้อนมากขึ้น

อนาคตของวงการฟุตบอลไทยอาจถูกกำหนดโดยผลลัพธ์ของการแข่งขันในซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ความสำเร็จไม่เพียงแต่จะเป็นเครื่องหมายแห่งเกียรติยศเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของแฟนบอลทั่วประเทศ การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมืออย่างเข้มแข็งระหว่างทุกฝ่าย หากสามารถสร้างกลไกที่เหมาะสมได้ ประเทศไทยจะสามารถยกระดับมาตรฐานของวงการฟุตบอลเยาวชนให้เทียบเคียงกับประเทศในภูมิภาคได้อย่างแท้จริง