แนวโน้มตลาดยานยนต์ในประเทศไทยกำลังแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะด้วยการสนับสนุนจากภาคเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล ในภาพรวม การผลิตและการส่งออกยานยนต์ในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นหากได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากความสำเร็จของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว อันเป็นแรงกระตุ้นสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวม

แม้ว่าปัจจัยสนับสนุนมีมากกว่าปัจจัยเสี่ยง แต่ก็ยังคงมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ เช่น เรื่องของหนี้ครัวเรือนและการควบคุมการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ รวมถึงมาตรการการค้าระหว่างประเทศที่อาจกระทบต่อการส่งออก นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีและการกำหนดมาตรฐานมลพิษระดับโลก ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่อุตสาหกรรมยานยนต์ต้องปรับตัวตาม เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและรองรับความต้องการของตลาดในอนาคต

สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้เสนอมาตรการเพื่อกระตุ้นยอดขายและส่งเสริมการส่งออกทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ใช้รถยนต์ การผ่อนคลายเงื่อนไขสินเชื่อ และการเร่งรัดเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เพื่อขยายตลาดส่งออก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แนวทางเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่ยังเสริมสร้างบทบาทของประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตยานยนต์ระดับโลก

การวางแนวทางที่ยั่งยืนและตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม จะทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้อย่างมั่นคง ทั้งนี้ การปรับตัวตามเทคโนโลยีสมัยใหม่และการเตรียมพร้อมด้านทรัพยากรมนุษย์จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืนในอนาคต