กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ดำเนินการตรวจค้นและยึดสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนมหาศาล มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท จากร้านค้าและโกดังหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร โดยมีสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าของสโมสรฟุตบอลชื่อดังต่างประเทศเป็นจำนวนมาก

ตำรวจเข้าปราบปรามเครือข่ายค้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ขนาดใหญ่

การปฏิบัติการยึดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ดำเนินการตรวจค้นและยึดสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนมหาศาล จากร้านค้าและโกดังหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้นำการปฏิบัติการ ได้แก่ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษการปฏิบัติการในครั้งนี้ ได้รับหมายค้นจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ จำนวน 7 หมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นสถานที่จำหน่ายสินค้าและโกดังเก็บสินค้าประเภทเสื้อผ้า ชุดกีฬา และสินค้าอื่นๆ ที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า จำนวน 7 แห่ง ในพื้นที่ย่านประตูน้ำ เขตราชเทวี อาคารพาณิชย์ในเขตบางคอแหลม เขตสาทร และเขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร

สินค้าที่ถูกยึด

จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบสินค้าประเภทเสื้อผ้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าแบรนด์เนมชื่อดัง อาทิ Louis Vuitton, GUCCI, TOMMY, BURBERRY และ POLO เป็นต้น รวมถึงชุดกีฬาที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าของสโมสรฟุตบอลชื่อดังต่างๆ เช่น ARSENAL, MANCHESTER CITY, LIVERPOOL, TOTTENHAM HOTSPUR, MANCHESTER UNITED และ NEWCASTLE UNITED เป็นต้น ซึ่งยังรวมถึงชุดกีฬาที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าของ NIKE, ADIDAS และ PUMA อีกด้วย โดยมีจำนวนสินค้าที่ถูกยึดประมาณ 120,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท

การดำเนินคดี

เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ยึดสินค้าดังกล่าวและนำส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อตรวจสอบและเป็นพยานหลักฐานในการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ความสำคัญของการปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์

การปฏิบัติการยึดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการอย่างจริงจังของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการปราบปรามเครือข่ายค้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ขนาดใหญ่ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก การยึดสินค้าจำนวนมหาศาลในครั้งนี้จะช่วยลดปริมาณสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่หลั่งไหลเข้าสู่ตลาด และส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ประกอบการที่มีพฤติกรรมดังกล่าวได้ตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา