บริษัทวอลต์ ดิสนีย์ สตูดิโอส์ได้ประกาศระงับการพัฒนาโปรเจกต์ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่นจากแอนิเมชั่นฮิตเรื่อง "Tangled" หรือ "ราพันเซล" โดยการตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากความล้มเหลวทางรายได้ของภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่นเรื่องล่าสุดอย่าง “สโนว์ไวท์” ซึ่งทำรายได้เพียง 145 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก จากทุนสร้างสูงถึง 270 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น การตอบรับที่ไม่ดีจากผู้ชมและนักวิจารณ์ รวมถึงความไม่แน่นอนในกลยุทธ์ของบริษัทภายใต้การนำใหม่ของทีมบริหาร
ในฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา วงการภาพยนตร์ถูกสะเทือนโดยการตัดสินใจของดิสนีย์ในการหยุดพัฒนาภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่นจากเรื่องราวยอดนิยมอย่าง "ราพันเซล" แม้ว่าจะเคยมีการพูดถึงการให้บทบาทนี้แก่นักร้องสาวซาบรินา คาร์เพนเตอร์ แต่กระแสตอบรับที่น้อยลงจากการฉายภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่นเช่น “สโนว์ไวท์” และ “เงือกน้อยผจญภัย” ก็ทำให้สตูดิโอมองเห็นความเสี่ยงของการลงทุนในโครงการคล้ายๆ กันในอนาคต
สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ดิสนีย์กำลังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้บริหาร โดยเฉพาะในฝ่ายภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่น ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการทบทวนแนวทางใหม่ ขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ที่ยังคงอยู่ในแผนงาน เช่น Lilo & Stitch และ Moana กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากมีฐานแฟนคลับขนาดใหญ่และความคาดหวังสูงจากตลาดภาพยนตร์
สำหรับภาพยนตร์ "สโนว์ไวท์" ที่ออกฉายเมื่อไม่นานมานี้ มีปัญหาหลายประการตั้งแต่การคัดเลือกนักแสดงจนถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งส่งผลให้คะแนน CinemaScore อยู่ที่เพียง B+ และคะแนนวิจารณ์ Metacritic อยู่ที่ 50% เพียงเท่านั้น
แม้จะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าโปรเจกต์ "ราพันเซล" จะถูกยกเลิกไปตลอดกาลหรือไม่ แต่การพักการพัฒนาในครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงการปรับตัวของดิสนีย์ในการประเมินความต้องการของผู้ชมในยุคใหม่
การตัดสินใจของดิสนีย์ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและการรับฟังความคิดเห็นของผู้บริโภค ในยุคที่พฤติกรรมการรับชมภาพยนตร์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้สร้างภาพยนตร์จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป หากไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับความล้มเหลวทางการเงินและการตอบรับที่ไม่ดี
สำหรับแฟนภาพยนตร์และแอนิเมชั่นของดิสนีย์ การตัดสินใจครั้งนี้อาจเป็นโอกาสที่ดีในการรอคอยผลงานที่มีคุณภาพและตรงกับความคาดหวังของพวกเขาในอนาคต