ในกรณีของไรเดอร์วัยกลางคนที่ถูกชนโดยรถคู่กรณีและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการสืบสวนในเบื้องต้น ดร.ปรเมศร์หรือ "ดร.แก้ว" เข้ามาช่วยเหลือในการติดตามคดีและประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเร่งรัดการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังช่วยคลี่คลายความเข้าใจผิดระหว่างผู้เสียหายกับตำรวจ โดยเน้นย้ำว่าการหาหลักฐานไม่ใช่หน้าที่ของผู้เสียหายแต่เพียงฝ่ายเดียว
ผู้เสียหายและครอบครัวรู้สึกโล่งอกมากขึ้นหลังจากได้รับคำแนะนำและการสนับสนุนจากดร.แก้ว และพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเหมาะสม ดร.แก้วยังให้ความช่วยเหลือทางการเงินเล็กน้อยเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการหยุดงานของผู้เสียหายที่ต้องพักฟื้นนานกว่า 30 วัน
ดร.ปรเมศร์หรือ "ดร.แก้ว" ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายในจังหวัดนนทบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุร่วมกับผู้เสียหายและครอบครัว พร้อมทั้งประสานงานกับตำรวจในพื้นที่เพื่อเร่งรัดการตรวจสอบหลักฐาน เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิดและรอยยางรถยนต์บนถนนที่แสดงถึงพฤติกรรมของรถคู่กรณี
การลงพื้นที่ทำให้ดร.แก้วสามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างละเอียด โดยพบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุมีลักษณะเส้นทางที่อาจทำให้เกิดการชนได้ง่าย เนื่องจากเป็นจุดยูเทิร์นใกล้ทางลงทางด่วน นอกจากนี้ดร.แก้วยังชี้แจงกับครอบครัวผู้เสียหายเกี่ยวกับบทบาทและความรับผิดชอบของตำรวจในการรวบรวมหลักฐาน รวมถึงการยืนยันว่าคู่กรณีควรแสดงความรับผิดชอบแทนที่จะขับรถหนีไป โดยดร.แก้วได้รับปากว่าจะติดตามคดีนี้จนถึงที่สุดเพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม
นางสมบูรณ์และสามีนายประดิษฐ์ได้รับการชี้แจงอย่างชัดเจนจากดร.แก้วและเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า การขอความร่วมมือในการหาหลักฐานเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าผู้เสียหายต้องรับภาระทั้งหมด แต่เป็นเพียงการเสริมสร้างหลักฐานเพื่อให้คดีเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ความเข้าใจผิดที่เคยเกิดขึ้นระหว่างครอบครัวผู้เสียหายและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถูกคลี่คลายอย่างราบรื่น โดยเฉพาะประเด็นที่ครอบครัวเชื่อว่าพวกเขาถูกทิ้งให้หาหลักฐานเองทั้งหมด หลังจากได้รับคำอธิบายอย่างละเอียด ทั้งสองฝ่ายสามารถปรับความเข้าใจใหม่ได้สำเร็จ นายประดิษฐ์กล่าวขอบคุณดร.แก้วที่เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของเขา พร้อมทั้งยืนยันว่าเขาพร้อมช่วยเหลือตำรวจหากจำเป็น ขณะเดียวกันก็ฝากข้อความถึงคู่กรณีว่าควรแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะไม่คาดหวังผลตอบแทนใด ๆ ก็ตาม