ทีมชาติไทยพร้อมลบอาถรรพ์ คว้าแชมป์คิงส์คัพ ครั้งแรกที่สงขลา

ในวันที่ 13 ตุลาคม 2567 "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้กล่าวถึงความท้าทายที่ทีมชาติไทยจะต้องเผชิญในรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 ที่จะพบกับทีมชาติซีเรีย โดยเชื่อมั่นในทีมงานสตาฟฟ์โค้ชและผู้เล่นทุกคน พร้อมหวังพลังแฟนบอลที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา ช่วยทีมคว้าแชมป์รายการนี้ครั้งแรกที่ต่างจังหวัดได้สำเร็จ

ทีมชาติไทยพร้อมลบอาถรรพ์ คว้าแชมป์คิงส์คัพ ครั้งแรกที่สงขลา

ความท้าทายของทีมชาติไทยในรอบชิงชนะเลิศ

"มาดามแป้ง" ยอมรับว่าการพบกับทีมชาติซีเรียในรอบชิงชนะเลิศ จะเป็นเกมที่ยากสำหรับทีมชาติไทยแน่นอน เนื่องจากซีเรียเป็นทีมที่มีอันดับโลกสูงกว่าไทย และมีผู้เล่นค้าแข้งอยู่ในยุโรปหลายคน ถือเป็นบททดสอบที่ยากมากขึ้น แต่ "มาดามแป้ง" ก็เชื่อมั่นในตัวทีมงานสตาฟฟ์โค้ชและผู้เล่นทุกคน ว่าสามารถสู้ได้ ที่สำคัญยังมีพลังเชียร์จากแฟนบอลกว่า 25,000 คนในสนามกีฬาติณสูลานนท์ สนับสนุนอยู่ข้างหลัง

ความหวังในการคว้าแชมป์คิงส์คัพ ครั้งแรกที่ต่างจังหวัด

"มาดามแป้ง" กล่าวว่า ทีมชาติไทยเคยคว้าแชมป์คิงส์คัพได้ถึง 15 ครั้ง แต่ทั้งหมดเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ หลายคนบอกว่าการมาเล่นที่ต่างจังหวัดอาจจะเป็นอาถรรพ์ของทีมชาติไทย แต่ "มาดามแป้ง" ไม่คิดแบบนั้น เพราะการออกมาเล่นที่ต่างจังหวัดมีแง่มุมดีๆ เกิดขึ้นมากมาย อย่างเช่น กระแสความนิยม การท่องเที่ยว และความคึกคักที่เกิดขึ้นภายในจังหวัด ดังนั้น "มาดามแป้ง" จึงหวังว่าในเกมวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ทีมชาติไทยจะสามารถลบเรื่องเหล่านั้นออกไปได้สำเร็จ และกลับมาคว้าแชมป์คิงส์คัพ ที่เรารอคอยในรอบ 7 ปี และได้ชื่อว่าการคว้าแชมป์คิงส์คัพที่ต่างจังหวัด เกิดขึ้นครั้งแรกที่จังหวัดสงขลา

ความพร้อมของทีมชาติไทยในการลงสนาม

ช้างศึกชุดใหญ่ ยกทัพมาเล่นที่จังหวัดสงขลาเป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี ต่อจากฟุตบอลเอเชียนเกมส์ในปี 1998 เช่นเดียวกับ จังหวัดสงขลา ได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพฟุตบอลรายการนี้เป็นครั้งแรก และในฐานะจังหวัดที่ 2 ของภาคใต้ ต่อจาก ภูเก็ต อย่างไรก็ตาม 8 ครั้งก่อนหน้านี้ที่ทีมชาติไทย มาแข่งขันฟุตบอลรายการ "คิงส์คัพ" ที่ต่างจังหวัด ทีมกลับไม่สามารถคว้าแชมป์ได้เลย ซึ่งเป็นความท้าทายที่ทีมชาติไทยต้องพิสูจน์ในครั้งนี้