ช้างศึกคว้าแชมป์คิงส์คัพ 2024 ด้วยแท็กติกเหนือชั้น

Oct 15, 2024 at 7:34 AM
Slide 2
Slide 1
Slide 2
Slide 1

ทีมชาติไทยคว้าแชมป์คิงส์คัพ 2024 ด้วยแท็กติกเอาชนะซีเรียของ อิชิอิ

ทีมชาติไทยเฉือนชนะทีมชาติซีเรีย 2-1 คว้าแชมป์คิงส์คัพ 2024 ไปครองได้เป็นสมัยที่ 16 และเป็นแชมป์ครั้งแรกในรอบ 7 ปี โดยมีสถิติที่น่าสนใจหลังเกมดังกล่าว โดยเฉพาะบทบาทของ "จารย์เตอร์" วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ที่เป็นหัวใจสำคัญของทีมในการปิดทองหลังพระ

ทีมชาติไทยคว้าแชมป์คิงส์คัพ 2024 ด้วยแท็กติกเอาชนะซีเรียที่ยอดเยี่ยม

ความสำเร็จของทีมชาติไทยในการคว้าแชมป์คิงส์คัพ 2024

ทีมชาติไทยสามารถคว้าแชมป์คิงส์คัพ 2024 ได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉือนชนะทีมชาติซีเรีย อันดับ 92 ของโลก ไปได้ 2-1 ซึ่งถือเป็นสมัยที่ 16 ที่ "ช้างศึก" คว้าแชมป์ในรายการนี้ และเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ที่ทีมชาติไทยสามารถคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง นับเป็นความสำเร็จอย่างมากสำหรับทีมชาติไทยภายใต้การคุมทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ ที่สามารถนำทีมคว้าแชมป์ได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งนี้ ในเกมดังกล่าว ทีมชาติไทยได้ประตูจาก "บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา และ "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ซึ่งเป็นผู้เล่นแนวรุกที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยว่า "จารย์เตอร์" วีระเทพ ป้อมพันธุ์ มิดฟิลด์ห้องเครื่องของทีมชาติไทย คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ทีมสามารถเอาชนะซีเรียได้ตามแท็กติกของ อิชิอิ

บทบาทสำคัญของ "จารย์เตอร์" วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ในการคว้าแชมป์คิงส์คัพ 2024

จากสถิติที่น่าสนใจหลังเกมฟุตบอลคิงส์คัพ 2024 นัดชิงชนะเลิศ ระบุว่า "จารย์เตอร์" วีระเทพ ป้อมพันธุ์ เป็นมิดฟิลด์ที่ได้สัมผัสบอลเยอะที่สุดในเกมดังกล่าว โดยมีสถิติการสัมผัสบอลถึง 55 ครั้ง และจ่ายบอลสำเร็จ 34 จาก 40 ครั้ง นอกจากนี้ เขายังมีสถิติการจ่ายบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้าย 12 ครั้ง, นำบอลกลับคืน 6 ครั้ง, ครอสบอล 4 ครั้ง และสร้างโอกาส 2 ครั้งสถิติการวิ่งของ "จารย์เตอร์" วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเขาวิ่งไปรับบอลและจ่ายบอลทั่วทั้งสนาม ด้วยระยะทางถึง 9.6 กิโลเมตร ซึ่งเป็นรองเพียงแค่ ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่วิ่ง 9.9 กิโลเมตร เท่านั้นจะเห็นได้ว่า "จารย์เตอร์" วีระเทพ ป้อมพันธุ์ เป็นผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการช่วยให้ทีมชาติไทยสามารถเอาชนะซีเรียได้ตามแท็กติกของ อิชิอิ ที่เน้นเกมเพรสซิ่ง โดยเขาทำหน้าที่ปิดทองหลังพระของทีมได้อย่างยอดเยี่ยม

แผนการเตรียมทีมชาติไทยสู่ฟีฟ่าเดย์รอบต่อไป

หลังจากคว้าแชมป์คิงส์คัพ 2024 ไปได้แล้ว ทีมชาติไทยจะมีโปรแกรมอุ่นเครื่องอีก 2 นัด ระหว่างวันที่ 13-21 พฤศจิกายน 2567 โดยจะมีการประกาศทีมคู่ต่อสู้ รวมถึง วัน เวลา และสถานที่แข่งขันให้ทราบอีกครั้งในภายหลังการอุ่นเครื่องในครั้งนี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมของทีมชาติไทยสู่ฟีฟ่าเดย์รอบต่อไป ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับ "ช้างศึก" ในการพัฒนาฟอร์มการเล่นและสร้างความเชื่อมั่นก่อนลงสนามในรายการระดับนานาชาติต่อไป