ชีวิตที่ถูกตัดรั้งอย่างโหดร้าย: เรื่องราวของหนุ่มวัย 24 ปีที่ถูกรถแท็กซี่ชนและทับซ้ำจนเสียชีวิต

Nov 17, 2024 at 10:02 PM
เหตุการณ์อันน่าสลดใจเกิดขึ้นในจังหวัดนนทบุรี เมื่อหนุ่มวัย 24 ปี ที่เป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ได้ขับรถมาส่งรุ่นพี่ที่เมาแล้วกลับบ้าน แต่ระหว่างทางรถเกิดเสียหลักล้ม และถูกรถแท็กซี่ขับสวนมาชนและทับซ้ำ จนเสียชีวิตกลางถนน

เรื่องราวที่ไม่อาจลืมเลือน

เหตุการณ์อันน่าสลด

เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางศรีเมือง จังหวัดนนทบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ โดยมีรถแท็กซี่ชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณปากซอยบางกรวย-ไทรน้อย 37 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลบางกร่าง อำเภอเมืองนนทบุรีเจ้าหน้าที่ได้รีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ และพบร่างของนายปรีชาชัย อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน โดยมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น WR 155R สีน้ำเงิน ทะเบียน 8655 กทม. ล้มตะแคงอยู่ใกล้ๆ และห่างไปเล็กน้อยพบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน 5859 กทม. ที่มีร่องรอยความเสียหายบริเวณกันชนหน้าด้านขวา

ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยความจริง

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่า ผู้เสียชีวิตและเพื่อนของเขาได้ขับรถจักรยานยนต์กันมา 2 คัน และหยุดรออยู่กลางถนนเพื่อจะเลี้ยวเข้าซอยบางกรวย-ไทรน้อย 37 ในขณะนั้น รถจักรยานยนต์ของนายปรีชาชัยเกิดเอียงและเสียหลักล้ม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถแท็กซี่ขับสวนทางมา ทำให้รถแท็กซี่ชนและทับซ้ำดังกล่าวจากการสอบสวน พบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ที่อยู่ในย่านบางบัวทอง และรถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุนั้นเป็นของรุ่นพี่ที่อยู่ในซอยบางกรวย-ไทรน้อย 37 ซึ่งก่อนเกิดเหตุ รุ่นพี่ได้ไปดื่มสังสรรค์มาและแวะหานายปรีชาชัยที่บ้าน โดยนายปรีชาชัยเห็นว่ารุ่นพี่มีอาการมึนเมา จึงได้อาสาขับรถจักรยานยนต์ของรุ่นพี่มาส่งให้ที่บ้าน

คำให้การของคนขับรถแท็กซี่

คนขับรถแท็กซี่ได้ให้การว่า ในขณะที่ตนเองขับรถมาตามเส้นทางปกติ จู่ๆ รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวที่จอดอยู่กลางถนนเพื่อจะเลี้ยวเข้าซอยก็เกิดล้มมาขวางถนน ซึ่งเป็นจังหวะที่กระชั้นชิดไม่สามารถเบรกหรือหักหลบได้ทัน จึงเป็นเหตุให้ชนและทับซ้ำดังกล่าว

การดำเนินคดี

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุ และสอบปากคำคนขับรถแท็กซี่ รวมถึงเก็บหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์ที่มีลักษณะสูง และในจังหวะที่จอดรถรอเลี้ยวคล้ายเท้าหยั่งไม่ถึงพื้น ทำให้รถเกิดเสียหลักล้ม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถแท็กซี่วิ่งสวนทางมา จนเกิดการชนขึ้นทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการสอบปากคำคนขับรถแท็กซี่เพิ่มเติม และส่งศพของผู้เสียชีวิตให้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ดำเนินการชันสูตรพลิกศพต่อไป