ค้นพบความน่ากลัวที่ซ่อนอยู่ในความมืดมน: 'Wolf Man' ภาพยนตร์สยองขวัญที่จะทำให้คุณสะดุ้งกลัว

Universal Pictures ได้ปล่อยตัวอย่างแรกอย่างเป็นทางการของ 'Wolf Man' ภาพยนตร์สยองขวัญที่สร้างโดยค่าย Blumhouse ภายในงาน New York Comic Con เรื่องราวของครอบครัวที่ต้องเผชิญกับสัตว์ร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดมน และการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด

ค้นพบความน่ากลัวที่ซ่อนอยู่ในความมืดมน

ความมืดมนที่ซ่อนเร้นความน่ากลัว

'Wolf Man' เล่าเรื่องของ เบลค (Blake) ที่รับบทโดย คริสโตเฟอร์ แอ็บบอท (Christopher Abbott) พร้อมด้วย ชาร์ลอตต์ (Charlotte) ภรรรยาของเขาที่รับบทโดย จูเลีย การ์แลนด์ (Julia Garner) และ จินเจอร์ (Ginger) ลูกสาวของเขาที่รับบทโดย มาทิลดา เฟิร์ธ (Matilda Firth) เดินทางไปไปรับมรกดบ้านไร่ในโอเรกอน ภายหลังจากที่พ่อของเบลคได้หายสาบสูญไป แต่พวกเขาได้ถูกสัตว์ร้ายโจมตี ซึ่งทำให้พวกเขาต้องหลบหนีและขังตัวเองอยู่ภายในบ้านไร่เพื่อความปลอดภัย โดยไม่ทันคาดคิดว่า บุคคลในบ้านกำลังกลายร่างเป็นอสูรร้ายอีกตัวหนึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาผู้ชมลึกลงไปในความมืดมนของจิตใจของตัวละคร เบลค ที่ค่อย ๆ กลายร่างและออกห่างความเป็นมนุษย์มากขึ้นทุกที ผู้กำกับ ลีห์ แวนเนลล์ (Leigh Whannell) ได้ใช้องค์ประกอบด้านจิตวิทยาและการใช้สีและแสงเพื่อแยกให้เห็นความคิดภายในจิตใจของเขาที่แปลกแยกจากร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้ผู้ชมได้ลึกซึ้งกับความรู้สึกของตัวละครมากขึ้น

ตัวละครหญิงที่โดดเด่น

นอกจากนี้ แวนเนลล์ยังให้ความสำคัญกับตัวละครหญิง โดยเลือกการ์แลน์ที่ได้รับคำชมจากซีรีส์ 'Ozark' และ 'Inventing Anna' ของ Netflix มารับบทสำคัญในครั้งนี้ เช่นเดียวกับที่เคยเลือก เอลิซาเบธ มอสส์ (Elisabeth Moss) ซึ่งโด่งดังจากซีรีส์ 'The Handmaid's Tale' มาเป็นนำใน 'The Invisible Man' เพื่อใช้ศักยภาพด้านการแสดงของพวกเธอในการขับเน้นอารมณ์ตึงเครียดออกมาให้มากที่สุดตัวละครหญิงในภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องราว และสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความเปราะบางของมนุษย์ในสถานการณ์ที่น่ากลัว ผู้ชมจะได้เห็นมุมมองที่หลากหลายและลึกซึ้งของประสบการณ์ของตัวละครหญิง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและความตึงเครียดให้กับเรื่องราว

ความสำเร็จของ 'The Invisible Man' และการดัดแปลงภาพยนตร์คลาสสิก

'Wolf Man' เวอร์ชันล่าสุดนี้ เป็นผลงานกำกับล่าสุดของ ลีห์ แวนเนลล์ (Leigh Whannell) ที่ประสบความสำเร็จอยู่สูงจากการกำกับภาพยนตร์สยองขวัญจิตวิทยา เรื่อง 'The Invisible Man' (2020) ซึ่งดัดแปลงภาพยนตร์มอนสเตอร์คลาสสิกในชื่อเดียวกันของ Universal เมื่อปี 1933 ได้อย่างน่าประทับใจ โดยทำรายได้ทั่วโลกไป 144.5 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียง 7 ล้านเหรียญสำหรับ 'Wolf Man' นั้น ก็ได้รับการดัดแปลงจากภาพยนตร์มอนสเตอร์ระดับคลาสสิกในชื่อเดียวกันของ Universal เมื่อปี 1941 ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ที่ยังคงรักษาความคลาสสิกของภาพยนตร์ต้นฉบับไว้ แต่ได้เพิ่มเติมองค์ประกอบใหม่ ๆ เข้าไปเพื่อให้เหมาะสมกับยุคสมัยและสร้างความน่าสนใจให้กับผู้ชมในปัจจุบันด้วยความสำเร็จของ 'The Invisible Man' และการดัดแปลงภาพยนตร์คลาสสิกที่ได้รับการชื่นชม ผู้ชมจึงมีความคาดหวังสูงต่อ 'Wolf Man' ว่าจะสามารถสร้างความตื่นเต้นและความน่ากลัวให้กับพวกเขาได้เช่นเดียวกัน

ความน่ากลัวที่ซ่อนอยู่ในความมืดมน

จากตัวอย่างที่ปล่อยออกมา 'Wolf Man' แสดงให้เห็นว่าแวนเนลล์ได้ยกระดับการใชองค์ประกอบด้านจิตวิทยาเข้ากับการสร้างบรรยากาศที่มืดหม่นน่ากลัวให้สูงขึ้นอีกระดับ ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญของเขาตั้งแต่สร้าง 'Saw' ภาคต้นฉบับเมื่อปี 2004 ร่วมกับ เจมส์ วาน (James Wan) ไฮไลท์สำคัญ คือ ความพยายามเน้นให้เห็นเบลคที่ค่อย ๆ กลายร่างและออกห่างความเป็นมนุษย์มากขึ้นทุกที รวมถึงการใช้สีและแสงเพื่อแยกให้เห็นความคิดภายในจิตใจของเขาที่แปลกแยกจากร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งจะทำให้ผู้ชมได้ลึกซึ้งกับความรู้สึกของตัวละครมากขึ้น และเพิ่มความน่ากลัวให้กับเรื่องราวด้วยการดัดแปลงภาพยนตร์คลาสสิกที่ได้รับการยอมรับ และการใช้องค์ประกอบด้านจิตวิทยาที่ลึกซึ้ง 'Wolf Man' จึงเป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่น่าจับตามอง และมีศักยภาพในการสร้างความตื่นเต้นและความน่ากลัวให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี