ความสูญเสียที่น่าเศร้าของนักเรียนที่ต้องเสียชีวิตจากการเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาสี

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากพ่อและแม่ของ "น้องโฟกัส" นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เสียชีวิตจากการเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาสีของโรงเรียน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าและน่าสลดใจ

เหตุการณ์น่าเศร้าที่ควรเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับโรงเรียน

ประวัติความเป็นมาของ "น้องโฟกัส"

"น้องโฟกัส" เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/7 ของโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นเด็กที่ป่วยเป็นโรคพุ่มพวงตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และต้องคอยรักษาอาการเรื่อย ๆ โดยไม่สามารถออกกำลังหนักมากได้ ทางโรงเรียนจึงให้น้องไปร่วมกิจกรรมกีฬาสีในฐานะผู้ช่วยเสิร์ฟอาหารและน้ำ แทนการแข่งขันกีฬา ซึ่งบางวันน้องต้องทำงานจนถึงเวลา 3 ทุ่มเย็น และรู้สึกเหนื่อยมาก แต่ก็ต้องทนทำเพราะมิเช่นนั้นครูจะไม่ให้ผ่านกิจกรรม

เหตุการณ์ที่น่าเศร้าในวันกีฬาสี

ในวันที่เกิดเหตุการณ์ ทีมงานสตาฟเชียร์ไม่มาร่วมกิจกรรม จึงให้น้องโฟกัสไปเต้นแทน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่น้องไม่สามารถทำได้เนื่องจากสภาพร่างกายที่อ่อนแอ จนกระทั่งน้องเป็นลมกลางสนามในช่วงพิธีปิดกีฬา แพทย์รักษาอาการอยู่ 22 วันก็เสียชีวิต

การปฏิบัติของโรงเรียนที่ไม่เหมาะสม

ระหว่างที่น้องโฟกัสรับการรักษาในโรงพยาบาล มีคณะครูและผู้อำนวยการมาเยี่ยม ซึ่งผู้อำนวยการมักจะพูดว่า "ภูมิใจนะ น้องเสียสละชีวิตเพื่อชาติ" ทำให้ญาติและกลุ่มเพื่อนรู้สึกไม่พอใจในคำพูดดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกล่าวอ้างที่ไม่เหมาะสม และไม่สอดคล้องกับสาเหตุการเสียชีวิตของน้องโฟกัส

การเรียกร้องค่าเสียหายจากโรงเรียน

ทางครอบครัวของน้องโฟกัสจึงยื่นเรื่องให้ทางโรงเรียนออกมาชดใช้ค่าเสียหาย 12 ล้านบาท แต่ทางโรงเรียนแจ้งกลับมาว่าให้ได้แค่ 7 แสนบาทเท่านั้น ทำให้ทางพ่อแม่เด็กจึงแต่งตั้งทนายความฟ้องร้องทางแพ่งกับโรงเรียน โดยเรียกร้องเป็นเงิน 8 ล้านบาท

ข้อเสนอแนะจากครอบครัวน้องโฟกัส

ทางครอบครัวของน้องโฟกัสได้ฝากข้อเสนอแนะไปยังทางโรงเรียน ว่าหากจะนำเด็กมาทำกิจกรรม ควรต้องสอบถามข้อมูลเด็กเกี่ยวกับโรคประจำตัว และความสามารถในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างละเอียด ไม่ใช่พูดลอย ๆ และควรจัดให้มีการดูแลความปลอดภัยอย่างทันท่วงที เช่น มีแพทย์ประจำสนาม และประสานงานอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

ข้อชี้แจงจากผู้อำนวยการโรงเรียน

ผู้อำนวยการโรงเรียนต้นสังกัดของน้องโฟกัสเปิดเผยว่า ตนไม่ทราบมาก่อนว่าน้องโฟกัสมีโรคประจำตัว และผู้ปกครองก็แจ้งว่าได้บอกครูไปแล้ว ซึ่งตอนเกิดเหตุช่วงบ่ายอากาศร้อนมาก ทางโรงเรียนก็ได้เข้ามาช่วยนำส่งโรงพยาบาลทันที และได้ติดตามการรักษาจนกระทั่งเสียชีวิต รวมถึงการประกอบพิธีทางศาสนา ทั้งนี้ ผู้อำนวยการกล่าวว่าได้รับบทเรียนมากจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะต้องสอบถามข้อมูลสุขภาพของนักเรียนอย่างละเอียดในอนาคต