การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันการลดก๊าซเรือนกระจกในวงการกีฬา โดยมุ่งเน้นไปที่การจัดงานอีเวนต์แบบคาร์บอนนิวทรัล เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2065 การดำเนินการนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน เช่น รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นอกจากนี้ มีการมีส่วนร่วมจากนางงาม "Miss Climate Change" เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เมื่อไม่นานมานี้ ประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนในการสนับสนุนแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกผ่านโครงการระดับประเทศ โดยเฉพาะในภาคส่วนของการจัดแข่งขันกีฬา ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญขององค์กรต่างๆ ในการสร้างความร่วมมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี 2050 การดำเนินงานนี้จะช่วยยกระดับมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน

ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า การจัดการแข่งขันกีฬาในรูปแบบคาร์บอนนิวทรัลมีความสำคัญอย่างมากสำหรับอนาคตของประเทศไทย โดยเฉพาะในโอกาสสำคัญเช่นการแข่งขันซีเกมส์ในปีนี้ ซึ่งจะกลายเป็นต้นแบบของการลด GHG ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาโลกร้อนผ่านกิจกรรมกีฬา

นอกจากนี้ ดร.ณัฐริกา วายุภาพ นิติพน รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ยังได้ชี้แจงถึงความจำเป็นในการลดผลกระทบจากการจัดการแข่งขันกีฬา ซึ่งอาจเกิดจากการเดินทาง การใช้พลังงาน และการใช้ทรัพยากรจำนวนมาก การดำเนินการนี้จะช่วยเสริมสร้างตลาดคาร์บอนภายในประเทศ โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมการซื้อขายและการถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตในจำนวนกว่า 900,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าในปีงบประมาณ 2568

องค์กรกีฬาที่เข้าร่วมลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ประกอบด้วยสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย สมาคมการจัดการกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย การลงนามดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นขององค์กรเหล่านี้ในการสร้างความยั่งยืนผ่านกิจกรรมกีฬา

ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่สนับสนุนการสร้างจิตสำนึกและความรู้ด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้กับผู้เกี่ยวข้องในวงการกีฬา แต่ยังผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล และตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และพัฒนาตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตในภูมิภาคอาเซียน