ความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ: ความจำเป็นในการเร่งรัดการตรวจสอบอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง

Oct 24, 2024 at 8:41 AM
ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในสังคมเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ กระทรวงคมนาคมจึงสั่งการให้ตรวจสอบรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิง CNG ทั้งหมดภายใน 60 วัน เพื่อให้มั่นใจว่ารถเหล่านี้มีสภาพที่พร้อมให้บริการอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ยังมีรถโดยสารอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร

ตรวจสอบรถโดยสารอย่างเข้มงวดเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

การตรวจสอบสภาพรถโดยสารอย่างเข้มข้น

จากข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก พบว่า ตั้งแต่วันที่ 4 - 20 ตุลาคม 2567 มีรถโดยสารสาธารณะที่ผ่านการตรวจสอบไปแล้วทั้งสิ้น 1,973 คัน แต่ยังมีอีก 11,453 คันที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าจะไม่สามารถตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด ทำให้รถเหล่านี้ยังคงให้บริการอยู่บนท้องถนน โดยอาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการเร่งรัดการตรวจสอบรถโดยสารอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่ารถทุกคันที่ให้บริการมีสภาพที่พร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย

การเพิ่มบทบาทของจุดตรวจสอบ (Check Point)

นอกจากการเรียกรถโดยสารเข้ารับการตรวจสอบสภาพใหม่อย่างจริงจังแล้ว ควรมีการเพิ่มบทบาทของจุดตรวจสอบหรือเช็กพ้อยท์ (Check Point) ที่มีอยู่แล้วสำหรับรถที่วิ่งระหว่างเมือง โดยให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดเหล่านี้มีความเข้มงวดในการตรวจสอบเชิงลึกมากขึ้น ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เช่น จำนวนถังแก๊ส จุดติดตั้งถังแก๊ส อุปกรณ์ความปลอดภัย จำนวนผู้โดยสาร ข้อมูลการเดินทาง เป็นต้น เพื่อเป็นเครื่องมือในการกำกับดูแลผู้ประกอบการ พนักงานขับรถ และพนักงานประจำรถให้มีระเบียบวินัยและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

การแก้ไขข้อบกพร่องด้านกฎหมายและการบังคับใช้

จากกรณีอุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงข้อบกพร่องของการบังคับใช้กฎหมายและการกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัย โดยมีปัจจัยร่วมที่ทำให้อุบัติเหตุรุนแรง ได้แก่ การนำโครงรถเก่ามาดัดแปลง การควบคุมตรวจสอบจำนวนและจุดติดตั้งถังแก๊ส และรายละเอียดอื่นๆ ที่เป็นปัจจัยเสี่ยง เช่น ความพร้อมของอุปกรณ์นิรภัย ประตูฉุกเฉิน เป็นต้น ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องเร่งแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้ เพื่อให้มั่นใจว่ารถโดยสารสาธารณะทุกคันที่ให้บริการมีมาตรฐานความปลอดภัยที่เพียงพอ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการ