ตามที่มีรายงานข่าวเกี่ยวกับการส่งหนังสือของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ถึงผู้ว่าราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อให้ระงับโครงการต่าง ๆ และรายงานความคืบหน้าโครงการที่ร่วมมือกับสมาคมพัฒนากีฬาฟุตบอลสู่ความเป็นเลิศ (ประเทศไทย) ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 นั้น ล่าสุดมีผู้เสียหายรายที่ 3 ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร และ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการถูกหลอกให้วางเงินประกันสัญญา 4.8 ล้านบาท

ตรวจ DNA เด็กเพื่อค้นหาพรสวรรค์ แต่ต้องวางเงินประกัน 4.8 ล้านบาท

ผู้เสียหายรายที่ 3 ถูกหลอกให้วางเงินประกัน

ตามรายงาน บริษัท เมดิคอลไลน์ แล็บ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ภายใต้ชื่อ "สหคลินิกเมติดอลไลน์แล็บ" ได้รับการประสานงานจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นนายกสมาคมพัฒนากีฬาฟุตบอลสู่ความเป็นเลิศ (ประเทศไทย) เกี่ยวกับโครงการตรวจสุขภาพเด็กและเยาวชนนักกีฬาในโครงการท้องถิ่นไทยพัฒนานักกีฬาฟุตบอลสู่ความเป็นเลิศ โดยต้องการตรวจ DNA เพื่อค้นหาพรสวรรค์ของเด็กจำนวน 20,000 คน ซึ่งมีงบประมาณการตรวจคนละ 32,000 บาท และมีเงื่อนไขให้บริษัทฯ บริจาคเงินให้กับสมาคมฯ รายละ 13,000 บาท รวมทั้งต้องทำสัญญาพร้อมวางเงินประกัน 5% จากยอดในสัญญาต่อมา เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ได้มีการเซ็นสัญญาตรวจสุขภาพ จำนวน 3,000 คน ในราคาคนละ 32,000 บาท รวมเป็นเงิน 96,000,000 บาท โดยทางสมาคมพัฒนานักกีฬาฟุตบอลสู่ความเป็นเลิศ (ประเทศไทย) มีหน้าที่จัดและเตรียมการนำเยาวชนดังกล่าวให้ครบตามจำนวน และบริษัทฯ ได้นำหลักประกันเป็นแคชเชียร์เช็ค จำนวน 4,800,000 บาท มอบให้แก่สมาคมฯ เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา

ไม่ได้รับเงินค่าตรวจสุขภาพตามสัญญา

ทางบริษัทฯ ได้รับคำนัดจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นนายกสมาคมฯ ให้มารับเงินค่าตรวจสุขภาพล่วงหน้า 50% ตามสัญญา เป็นจำนวนเงิน 48,000,000 บาท ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 แต่เมื่อถึงเวลานั้น นายกสมาคมฯ กลับไม่ได้ชำระเงินให้แก่บริษัทฯ ตามที่ตกลงไว้ จึงได้ทวงถาม แต่กลับได้รับการบ่ายเบี่ยงต่อมา เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 นายกสมาคมฯ ได้ทำการเขียนเช็คจำนวน 48,000,000 บาท สั่งจ่ายให้กับบริษัทฯ แต่เช็คไม่สามารถขึ้นเงินได้ ทางบริษัทฯ จึงได้แจ้งยกเลิกสัญญาและขอเงินประกันที่ได้วางไว้คืน แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง

ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ

ด้วยเหตุดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 โดยเห็นว่า บุคคลที่อ้างว่าเป็นนายกสมาคมฯ อาจเป็นการแอบอ้างว่าเป็นเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ (ภจท.) สภาผู้แทนราษฎร์ (รัฐสภา) ซึ่งเป็นการหลอกลวงให้ผู้อื่น/บริษัทหลงเชื่อว่ามีโครงการดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย จึงขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป