ในช่วงเทศกาลมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ระบบขนส่งสาธารณะจะต้องมีประสิทธิภาพเพื่อรองรับผู้โดยสารจำนวนมาก ในบทความนี้เราจะสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 และมาตรการที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เตรียมไว้เพื่อให้บริการแก่ประชาชนอย่างเต็มความสามารถ

ระบบขนส่งสาธารณะที่พร้อมสำหรับคุณในช่วงวันหยุดยาว!

สถิติการเดินทางทางรถไฟในช่วงเทศกาล

เมื่อพูดถึงเทศกาลสงกรานต์ การเดินทางของประชาชนเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ โดยเฉพาะในปี 2568 ซึ่งมีการบันทึกจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟทั่วประเทศมากถึง 90,347 คนในวันสุดท้ายของการทำงานก่อนเข้าสู่ช่วงหยุดยาว ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของการรถไฟแห่งประเทศไทยในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน นอกจากนี้ยังพบว่าเส้นทางที่มีการเดินทางหนาแน่นที่สุด ได้แก่ สายใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ เหนือ และตะวันออกในบรรยากาศภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) มีความเรียบร้อยเป็นพิเศษ แม้จะมีผู้โดยสารจำนวนมากแต่ก็ไม่มีรายงานปัญหาใด ๆ เช่น ผู้โดยสารตกค้างหรือความล่าช้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการจัดการที่มีประสิทธิภาพและความพร้อมของเจ้าหน้าที่ในการรับมือกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง

มาตรการเพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษ

เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของการเดินทางในช่วงเทศกาลอันคึกคัก การรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดเตรียมขบวนรถเสริมพิเศษจำนวน 6 ขบวน โดยแต่ละขบวนมีกำหนดเวลาที่ชัดเจนและครอบคลุมพื้นที่ที่มีความต้องการสูง ตัวอย่างเช่น ขบวนที่เชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ กับอุบลราชธานี หรือขบวนที่วิ่งไปยังยะลาและเชียงใหม่ มาตรการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความแออัดบนขบวนรถหลักเท่านั้น แต่ยังเพิ่มโอกาสให้ผู้โดยสารสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น อีกทั้งยังมีการเตรียมขบวนรถสำรองในกรณีฉุกเฉิน เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างวันหยุดยาว

ความปลอดภัยและการดูแลจากหลายภาคส่วน

ความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่การรถไฟแห่งประเทศไทยให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด โดยได้มีการประสานงานกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความปลอดภัยบนขบวนรถไฟและสถานี นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่นเพื่อจัดอาสาสมัครดูแลทางผ่านเสมอระดับที่มีความเสี่ยง ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุทั้งบนถนนและทางรถไฟการดำเนินการดังกล่าวไม่เพียงแค่สร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐในการทำให้เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่ปลอดภัยและสะดวกสบายสำหรับทุกคน