ในกิจกรรมล่าสุดที่จัดขึ้น นครโฮจิมินห์ได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติและกงสุลใหญ่ได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการต่อสู้ของชาวเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขต กู๋จี ในช่วงสงครามต่อต้านสหรัฐฯ การฉายภาพยนตร์เรื่อง "Tunnels: Sun in the Dark" ซึ่งสร้างจากเหตุการณ์จริงในปีพ.ศ. 2510 ได้เผยให้เห็นถึงความเข้มแข็งและความอดทนของประชาชนชาวเวียดนาม นอกจากนี้ นายโฮ ซวน ลัม รองประธานสหภาพองค์กรมิตรภาพนครโฮจิมินห์ ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษาลาว กัมพูชา และเวียดนาม เพื่อสร้างความเข้าใจและความรักใคร่สามัคคีระหว่างประเทศ

การสำรวจอดีตผ่านเลนส์ภาพยนตร์

ในฤดูฝนของเดือนเมษายน ที่นครโฮจิมินห์ โครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมครั้งสำคัญได้ถูกจัดขึ้นโดยสหภาพองค์กรมิตรภาพนครโฮจิมินห์ เพื่อเชื่อมโยงนักศึกษาต่างชาติกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขต กู๋จี สถานที่ที่เคยเป็นระบบอุโมงค์ใต้ดินซึ่งใช้ในการหลบภัยและสู้รบในช่วงสงครามต่อต้านสหรัฐฯ

นายโฮ ซวน ลัม ได้กล่าวในงานนี้ว่า เป้าหมายหลักของโครงการไม่เพียงแต่จะทำให้นักศึกษาต่างชาติเข้าใจถึงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของเวียดนาม แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษาจากลาวและกัมพูชา รวมถึงครอบครัวชาวเวียดนามที่พวกเขาอาศัยอยู่ในระหว่างการศึกษาในนครโฮจิมินห์

ภาพยนตร์เรื่อง "Tunnels: Sun in the Dark" กำกับโดย บุย ทัก ชูเยน นำเสนอภาพชีวิตประจำวันของผู้คนที่อาศัยอยู่ในระบบอุโมงค์กู๋จี โดยมีฉากหลังในช่วงเวลาหลังจากการโจมตีที่เมืองซีดาร์ฟอลส์ในปีพ.ศ. 2510 ภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งมีระยะเวลาประมาณ 20 นาที ได้รับคำชมในด้านคุณภาพและความลึกซึ้งในการบอกเล่าเรื่องราว กลายเป็นภาพยนตร์สงครามเรื่องแรกที่ทำรายได้ทะลุหลักแสนล้านดองในเวียดนาม เมื่อวันที่ 10 เมษายน

การฉายภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเวียดนาม แต่ยังช่วยสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ระหว่างชนชาติที่หลากหลาย สำหรับผู้เข้าร่วม การได้สัมผัสกับความเข้มแข็งของประชาชนในอดีตทำให้พวกเขารู้สึกถึงพลังแห่งความสามัคคีและความกล้าหาญ ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ในโลกปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ