เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการประชุมระดับชาติเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่ปลอดภัยของระบบขนส่งนักเรียน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม เพื่อพัฒนาแผนปฏิบัติการที่ครอบคลุมทุกด้าน เช่น การตรวจสอบสภาพรถ การอบรมผู้ขับขี่ และการสร้างจิตสำนึกให้กับนักเรียนและครอบครัว นอกจากนี้ ยังได้มีการกำหนดนโยบายใหม่เพื่อควบคุมมาตรฐานการเดินทางของนักเรียนในช่วงเวลาที่สำคัญ เช่น ระหว่างปิดภาคเรียน รวมถึงมาตรการสนับสนุนความปลอดภัยสำหรับกิจกรรมนอกสถานศึกษา

การกำหนดมาตรการความปลอดภัยในการเดินทางของนักเรียน

หนึ่งในประเด็นสำคัญของการประชุมคือการวางโครงสร้างนโยบายที่ครอบคลุมสำหรับการลดความเสี่ยงในการเดินทางของนักเรียน โดยเน้นไปที่การตรวจสอบมาตรฐานรถยนต์และการฝึกอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้อง

ในกระบวนการนี้ หน่วยงานรัฐบาลได้เสนอแนวทางการดำเนินงานที่ประกอบด้วยสามหลักการหลัก ได้แก่ การป้องกัน การปลูกฝัง และการปราบปราม ในส่วนของการป้องกัน มีการแนะนำให้โรงเรียนจัดประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบความปลอดภัย พร้อมทั้งตรวจสอบประวัติของผู้ขับขี่และความเหมาะสมของยานพาหนะ อีกทั้งยังแนะนำให้มีการทำประกันชีวิตโดยสมัครใจ นอกจากนี้ การปลูกฝังความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนนยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องบูรณาการเข้ากับกิจกรรมในโรงเรียน ส่วนมาตรการปราบปราม จะเน้นไปที่การเตรียมพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉินและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

การสนับสนุนความปลอดภัยสำหรับกิจกรรมนอกสถานศึกษา

นอกจากมาตรการปกติแล้ว ยังมีการวางแผนเฉพาะสำหรับกิจกรรมนอกสถานศึกษาที่มักเกิดขึ้นในช่วงปิดภาคเรียน

ตามคำแนะนำจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีการกำชับให้โรงเรียนจัดระบบการดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกรณีที่มีการจัดกิจกรรมนอกสถานที่ สำหรับนักเรียนระดับปฐมวัย ควรมีผู้ปกครองอาสาเข้าร่วมคณะเสมอ เพื่อลดโอกาสในการเกิดเหตุไม่คาดคิด ส่วนนักเรียนในระดับประถมศึกษาชั้นต้น (ป.1-ป.3) ก็ควรได้รับการดูแลเช่นเดียวกัน รวมถึงการเลือกสถานที่ที่เหมาะสมและใกล้เคียงกับสถานศึกษา ในขณะเดียวกัน การตรวจสอบเอกสารใบรับรองการตรวจสภาพรถยนต์ก็เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยห้ามใช้รถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทนหากไม่มีอุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วน