ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พื้นที่จังหวัดนครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าพบรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีดำคันหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับกรณีการจำนำรถเถื่อนและการหลบหนีไฟแนนซ์ โดยรถดังกล่าวถูกพบครั้งแรกในอู่ซ่อมแห่งหนึ่ง และมีการพยายามเปลี่ยนแปลงสภาพเพื่ออำพรางตัวตนของรถ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการสกัดจับและตรวจสอบอย่างละเอียด ผลจากการตรวจสอบเผยให้เห็นว่ารถคันดังกล่าวใช้ทะเบียนปลอม และมีความเชื่อมโยงกับขบวนการโจรกรรมข้ามชาติ

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อญาติของผู้เป็นเจ้าของรถสังเกตเห็นรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์คันดังกล่าวจอดอยู่ในอู่ซ่อมที่อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม ซึ่งรถคันนี้หายไปเมื่อประมาณสองเดือนก่อน การตรวจสอบเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่ารถคันดังกล่าวไม่ได้รับการชำระภาษีมาเป็นเวลานานกว่าสองปี และมีสถานะระงับการใช้งาน นอกจากนี้ยังพบว่ามีการใช้แผ่นป้ายทะเบียนปลอม หมายเลข 5 ขช 5238 กรุงเทพฯ ซึ่งไม่ตรงกับข้อมูลจริงของรถ

จากการสอบสวนเพิ่มเติม พบว่ารถฟอร์จูนเนอร์คันดังกล่าวมีประวัติการค้างชำระเงินกับบริษัทโตโยต้าลิซิ่ง (ประเทศไทย) มาตั้งแต่ปี 2565 และเจ้าของรถไม่สามารถไถ่ถอนคืนได้ เนื่องจากมีการนำไปจำนำกับนายทุนเถื่อนหลายทอด สภาพของรถยังแสดงให้เห็นว่ามีการเตรียมเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์เพื่อลบล้างตำหนิ เพื่อไม่ให้สามารถระบุตัวตนของรถได้ ทางตำรวจจึงสงสัยว่าอาจมีแผนส่งขายต่อให้กับขบวนการโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติ

ภายหลังจากการตรวจยึดรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกับผู้ถือกรรมสิทธิ์ตามกฎหมายเพื่อเริ่มกระบวนการรับคืนรถยนต์ นอกจากนี้ยังมีมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการโจรกรรมรถยนต์และการส่งออกนอกประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนแม่น้ำโขง

เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการกระทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจำนำรถเถื่อนและการส่งออกต่อให้กับตลาดต่างประเทศ การทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงมีความสำคัญอย่างมากในการหยุดยั้งขบวนการเหล่านี้ และสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชน