บทความนี้นำเสนอข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการขอสินเชื่อเพื่อซื้อรถยนต์มือสอง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยล่าสุดในปี 2568 และวิธีคำนวณค่างวดอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้ผู้ที่กำลังมองหารถยนต์มือสองสามารถวางแผนการเงินได้อย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างดอกเบี้ยรถใหม่กับรถมือสอง และแนะนำสถาบันการเงินที่ให้บริการสินเชื่อแบบสะดวกและรวดเร็ว
เมื่อพูดถึงการขอสินเชื่อเพื่อซื้อรถยนต์มือสอง การเข้าใจรายละเอียดของอัตราดอกเบี้ยและการคำนวณค่างวดเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เนื่องจากกฎหมายใหม่ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2566 อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองต้องไม่เกิน 15% ต่อปี โดยสถาบันการเงินส่วนใหญ่กำหนดอัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 7-15% ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุรถ ประวัติเครดิตของผู้กู้ และระยะเวลาผ่อนชำระ
ในการคำนวณค่างวด เราจะต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย อาทิ ยอดจัดไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นราคาหลังหักเงินดาวน์ ดอกเบี้ยต่อปี และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ตัวอย่างเช่น หากต้องการซื้อรถมือสองราคา 500,000 บาท โดยมีเงินดาวน์ 20% ยอดจัดไฟแนนซ์จะอยู่ที่ 400,000 บาท ถ้าอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 10% ต่อปี และระยะเวลาผ่อนชำระ 60 เดือน ค่างวดต่อเดือนจะประมาณ 10,700 บาท
นอกจากนี้ยังควรทราบว่า ดอกเบี้ยสำหรับรถมือสองมักสูงกว่ารถใหม่ราว 2-4% เนื่องจากความเสี่ยงที่สูงขึ้น เช่น ค่าเสื่อมราคาที่มากกว่า โอกาสที่จะต้องซ่อมบำรุงมากขึ้น และความไม่แน่นอนในการขายต่อ ทำให้สถาบันการเงินต้องกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเพื่อชดเชยความเสี่ยงเหล่านี้
การเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมสำหรับการซื้อรถยนต์มือสองเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ผู้ที่สนใจควรศึกษาเงื่อนไขและเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายสถาบันการเงิน เพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระ และไม่เป็นภาระทางการเงินในระยะยาว ตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือ สินเชื่อรถยนต์ใช้แล้วจากทีทีบีไดรฟ์ ซึ่งให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมิน และสมัครง่าย รู้ผลอนุมัติไวภายใน 30 นาที