ในโอกาสสำคัญเมื่อเร็ว ๆ นี้ สมาคมกีฬามิกซ์มาเชี่ยลอาร์ตแห่งประเทศไทย (TAMMA) และกรุงเทพมหานคร (BMA) ได้จับมือกันเพื่อผลักดันกีฬา MMA สู่มาตรฐานระดับนานาชาติ โดยหวังให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางของศิลปะการต่อสู้ทั่วโลก การประชุมหารือเกิดขึ้นที่สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้บริหารจาก TAMMA เข้าพบกับฝ่ายบริหารของ BMA เพื่อวางแนวทางความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนานักกีฬาเยาวชน การสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางกีฬา ไปจนถึงการเสริมสร้างเศรษฐกิจกีฬาและความบันเทิง
ในฤดูใบไม้ผลิที่อบอุ่นของเดือนเมษายน ที่สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ได้มีการประชุมระหว่างนายศิริเชษฐ์ พูลทิพายานนท์ นายกสมาคม TAMMA และคณะผู้บริหาร กับนายสิงห์ ลิ้มพิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักฯ เพื่อวางแผนความร่วมมือที่จะนำไปสู่การยกระดับกีฬา MMA ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ของประเทศ
การประชุมเน้นไปที่การพัฒนานักกีฬาเยาวชนผ่านโครงการ Youth MMA Development Program การจัดเทศกาลกีฬากรุงเทพมหานคร และการสร้างสถานที่ฝึกซ้อมและแข่งขันที่มีมาตรฐานระดับโลก นอกจากนี้ยังมีแผนการบูรณาการกีฬากับการท่องเที่ยว เช่น Sports Tourism Integration เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับประเทศ
ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กีฬา MMA กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในระดับนานาชาติ โดยในปี 2568 มีการบรรจุกีฬานี้เป็นกีฬาสาธิตในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 33 และได้รับการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) ให้เป็นกีฬาชิงเหรียญในรายการใหญ่หลายรายการ
TAMMA ยังคงเป็นพันธมิตรกับ ONE Championship องค์กรศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานระดับโลก ซึ่งเปิดโอกาสให้นักกีฬาไทยสามารถก้าวสู่เวทีระดับนานาชาติ
จากมุมมองของผู้เขียน การร่วมมือระหว่าง TAMMA และ BMA นับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงพลังของการใช้กีฬาเป็นเครื่องมือในการสร้างเศรษฐกิจและวัฒนธรรมใหม่ ความพยายามเหล่านี้ไม่เพียงแต่ยกระดับกีฬา MMA แต่ยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางของ Soft Power ในภูมิภาคและทั่วโลก