การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเป็นส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาการจราจรที่คับคั่งในกรุงเทพฯ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ศึกษาพบว่ามีจุดฝืดทั้งหมด 127 จุด ซึ่งในจำนวนนี้ กทม. มีหน้าที่ดูแล 99 จุด ในปีที่ผ่านมา ได้ดำเนินการไปแล้ว 50 จุด และจะทำเพิ่มเติมในปี 2568 นี้อีก 710 จุด รวมถึงการปรับปรุงแยกสาทร-สุรศักดิ์ ซึ่งทำให้ความเร็วเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 20% และคอขวดลดลง 44%
นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีเช่น Area Traffic Control ควบคุมสัญญาณไฟให้มีความสัมพันธ์กัน และการติดกล้อง CCTV เพื่อตรวจสอบรถที่จอดในที่ห้ามจอด ยังเป็นวิธีที่ช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการเดินทาง
การส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะเป็นแนวทางสำคัญในการลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนน การปรับปรุงทางเท้าและการสร้างป้ายรถเมล์ดิจิทัล เพื่อให้ผู้โดยสารทราบเวลาที่รถเมล์จะมาถึง นอกจากนี้ การเพิ่มศาลาพักผู้โดยสารรอรถเมล์ ยังช่วยให้ผู้โดยสารสามารถรอคอยได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
โครงการ Bike Sharing ร่วมกับภาคเอกชน เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการใช้จักรยานเป็นพาหนะในการเดินทางระยะใกล้ๆ ทำให้ลดปริมาณรถบนท้องถนน และช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง
การแก้ปัญหาการจราจรไม่ได้จำกัดอยู่แค่การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย เช่น การกวดขันวินัยจราจร การจอดรถในที่ห้ามจอด การจอดรับ-ส่งนักเรียน หรือแท็กซี่สามล้อจอดรอริมถนน ซึ่งทำให้การจราจรติดขัด การทำงานร่วมกับตำรวจในการบังคับใช้กฎหมาย จะช่วยลดพฤติกรรมเหล่านี้และทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น
การใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย เช่น การติดกล้อง CCTV เพื่อตรวจจับรถที่จอดในที่ห้ามจอด หรือการใช้แอปพลิเคชันในการแจ้งเหตุการณ์จราจร จะช่วยให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การแก้ปัญหาการจราจรไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภาครัฐเท่านั้น แต่ยังต้องมีการร่วมมือกับภาคเอกชนและองค์กรระหว่างประเทศ เช่น การทำงานร่วมกับ Jica ในการปรับปรุงสัญญาณไฟจราจร และการสร้าง Command Center เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์บนถนน จะช่วยให้การแก้ปัญหาการจราจรเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
การร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนาโครงการ Bike Sharing และการสร้างป้ายรถเมล์ดิจิทัล จะช่วยส่งเสริมการใช้ขนส่งสาธารณะและทำให้การเดินทางของประชาชนสะดวกสบายมากขึ้น