กกท.เตรียมปี 2568 เพื่อส่งเสริมกีฬาเป็นเลิศครบวงจร

Dec 12, 2024 at 11:37 AM
กกท.พอใจผลงานวงการกีฬาไทยในปี 2567 แผนปี 2568 ได้เตรียมเดินหน้าส่งเสริมกีฬาให้ความเป็นเลิศอย่างเป็นระบบครบวงจร. ดร.ก้องศักด ยอดมณี เปิดเผยว่า ปี 2567 วงการกีฬาไทยขยับอันดับขึ้นสู่การแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และสามารถคว้าชัยชนะและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้. โดยเฉพาะการพัฒนานักกีฬาทีมชาติหน้าใหม่และประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับโลก เช่น การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2564 ไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 51 คน และพาราลิมปิกเกมส์ 2564 ไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 79 คน.

ผลงานในปี 2567

ดร.ก้องศักด กล่าวว่า ปี 2567 วงการกีฬาไทยขยับอันดับขึ้นสู่การแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ.ไทยสามารถคว้าชัยชนะและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้โดยเฉพาะการพัฒนานักกีฬาทีมชาติหน้าใหม่และประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับโลก. เช่น การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2564 ไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 51 คน ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งด้านชนิดกีฬาและนักกีฬา โดยจำนวน 37 คนเป็นนักกีฬาหน้าใหม่. และไทยได้ 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง รวม 6 เหรียญรางวัล เป็นอันดับที่ 12 ของเอเชีย. เช่นเดียวกับพาราลิมปิกเกมส์ 2564 ไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 79 คน ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และไทยได้ 6 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน 13 เหรียญทองแดง รวม 30 เหรียญรางวัล เป็นอันดันดับที่ 6 ของเอเชีย.

ดังนั้น ปี 2567 นั้นเป็นปีสำคัญสำหรับวงการกีฬาไทย โดยสามารถสร้างชื่อเสียงและความสำเร็จให้กับประเทศไทยได้.

แผนปี 2568

ในปี 2568 กกท. จะดำเนินการต่างๆ ตามแผนวิสาหกิจการกีฬาแห่งประเทศไทย 2568 - 2572 ที่ได้กำหนดวิสัยทัศน์ “พัฒนาการกีฬาให้ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติและบริหารจัดการองค์กรอย่างมีมาตรฐาน เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับประเทศอย่างยั่งยืน”. มีกิจกรรมสำคัญเช่น สนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติ ได้แก่ การจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาคนพิการแห่งชาติ และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ. การเตรียมและส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ เช่น เอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เวิลด์เกมส์ ครั้งที่ 12 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน เอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่สาธาณรัฐอุซเบกิสถาน และเอเชียนอินดอร์และมาร์เชีย.

ลอาตส์เกมส์ 2565 ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น. นอกจากนี้ กกท. จะเดินหน้าสนับสนุนการจัดกิจกรรมและการแข่งขันกีฬาทุกระดับเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ. เช่น การจัดการแข่งขันกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ กีฬาอาชีพและกีฬามวย กีฬาเพื่อการท่องเที่ยวและนันทนาการ (Sports Tourism) ส่งเสริมการนำแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) มาใช้ในการจัดกิจกรรมกีฬา.

ในปี 2568 กกท. ยังคงให้ความสำคัญในการส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศอย่างเป็นระบบครบวงจร. มุ่งเน้นการนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ในการพัฒนานักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาให้มีศักยภาพในระดับนานาชาติและต่อยอดสู่กีฬาอาชีพ. การพัฒนาระบบบริหารจัดการองค์กรในรูปแบบสมาร์ทออฟฟิศ และประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งเป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงศักยภาพความพร้อมด้านการจัดแข่งขัน และเป็นการประชาสัมพันธ์ให้นานาประเทศรู้จักประเทศไทยมากขึ้นอีกด้วย.