ความสำเร็จของ 'The Wild Robot' ภาพยนตร์แอนิเมชันล่าสุดจาก DreamWorks Animation

ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง 'The Wild Robot' ของ DreamWorks Animation ภายใต้การจัดจำหน่ายของ Universal ได้เปิดตัวอย่างน่าประทับใจในสุดสัปดาห์แรก โดยทำรายได้ถึง 35 ล้านเหรียญ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวภาพยนตร์แอนิเมชันในเดือนกันยายนที่ประสบความสำเร็จเป็นอันดับที่ 3 ของประวัติศาสตร์ รองจาก 'Hotel Transylvania 2' และ 'Hotel Transylvania' ของ Sony ที่ทำรายได้ไปแล้ว 48.4 ล้านเหรียญ และ 42.5 ล้านเหรียญ ตามลำดับ

ภาพยนตร์แอนิเมชันที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงถึง 53.1 ล้านเหรียญ

ความสำเร็จของ 'The Wild Robot' ในตลาดโลก

ภาพยนตร์เรื่อง 'The Wild Robot' ได้รับความสนใจจากผู้ชมทั่วโลก โดยทำรายได้ทั่วโลกไปแล้วถึง 53.1 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่อยู่ที่ 78 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งในแง่ของรายได้และการตอบรับจากผู้ชม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ในการสร้างสรรค์ผลงานที่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ชมทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

การดัดแปลงจากวรรณกรรมเยาวชนชุด 'The Wild Robot'

'The Wild Robot' เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนชุด 'The Wild Robot' ของ ปีเตอร์ บราวน์ โดยได้ คริส แซนเดอร์ส ผู้กำกับที่มีผลงานน่าประทับใจอย่าง 'Lilo & Stitch', 'How to Train Your Dragon' และ 'The Croods' มาเป็นผู้กำกับ และได้นักแสดงหญิงรางวัลออสการ์อย่าง ลูพีตา ญองอ มาให้เสียงพากย์เป็นตัวละคร Roz หุ่นยนต์ที่ถูกทิ้งไว้ในพื้นที่รกร้าง และต้องเรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับสัตว์ต่าง ๆ เพื่อเอาชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย จนกระทั่งได้รับเลี้ยงลูกห่านกำพร้าซึ่งทำให้เธอเกิดความรู้สึกห่วงใยขึ้นมา

การได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์และผู้ชม

'The Wild Robot' ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วไป โดยได้รับคะแนนวิจารณ์ในระดับ "สดใหม่" บน Rotten Tomatoes ถึง 98% และ CinemaScore ให้คะแนนไปสูงถึงระดับ A ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของเนื้อหา การเล่าเรื่อง และการสร้างสรรค์ภาพยนตร์

ความสำเร็จของ 'Beetlejuice Beetlejuice' ในตลาดสหรัฐฯ

ในขณะที่ 'Beetlejuice Beetlejuice' ของผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน ก็ยังคงทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ โดยตกอยู่ในอันดับที่ 2 ในการฉายสุดสัปดาห์ที่ 4 ด้วยรายได้ 16 ล้านเหรียญ ส่งผลให้รายได้รวมในสหรัฐฯ นั้น อยู่ที่ 250.1 ล้านเหรียญ แซงหน้าผลงานซูเปอร์ฮีโรสุดคลาสสิกของเบอร์ตันอย่าง 'Batman' ที่ทำไว้ 251.4 ล้านเหรียญ แต่ยังตามหลัง 'Alice in Wonderland' ที่ทำไว้ 334 ล้านเหรียญ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอีกครั้งของผลงานของเบอร์ตัน

ผลงานของ 'Transformers One' ที่ยังคงทำรายได้ได้ดี

ทางด้าน 'Transformers One' นั้น ถึงแม้จะทำรายได้ลดลงถึง 63% ในการฉายสุดสัปดาห์ที่ 2 โดยเก็บเพิ่มไปเพียง 9.3 ล้านเหรียญ แต่ก็ยังคงทำรายได้จากการฉาย 10 วันในสหรัฐฯ ไปได้ 39.2 ล้านเหรียญ และทำรายได้ทั่วโลกไป 72 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 75 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ยังคงทำรายได้ได้ดีอยู่

ความล้มเหลวของ 'Megalopolis' ในตลาดสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ที่น่าผิดหวังที่สุดคือ 'Megalopolis' ของ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ผู้กำกับระดับบรมครูจากไตรภาค 'The Godfather' และหนึ่งภาพยนตร์สงครามที่ดีที่สุดตลอดกาลอย่าง 'Apocalypse Now' ซึ่งทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐฯ ไปเพียง 4 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่มหาศาลถึง 120 ล้านเหรียญ และยังได้คะแนนวิจารณ์บน Rotten Tomatoes ไปในระดับ "มะเขือน่า" เพียง 49% จากนักวิจารณ์ 194 คน และ 37% จากผู้ชมมากกว่า 250 คน ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าเป็นภาพยนตร์ที่เข้าใจยาก ซึ่งถือเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ของผลงานชิ้นนี้