อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้บริโภคและผู้ผลิตทั่วโลก แต่ Toyota ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฮบริดกลับเลือกที่จะไม่เดินหน้าสู่ EV เต็มรูปแบบอย่างที่หลายค่ายทำ Akio Toyoda ซีอีโอของ Toyota ได้อธิบายถึงกลยุทธ์ Multi-Pathway ของเขา ซึ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีขุมพลังสะอาดหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและลดการปล่อยคาร์บอนในทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละพื้นที่ เช่น การขยายตลาด EV ในจีนและยุโรป ควบคู่ไปกับการรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดไฮบริด
Akio Toyoda มีความเห็นว่า Toyota จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนได้อย่างแท้จริง หากเลือกใช้ EV เป็นคำตอบเดียว เพราะปัจจุบันโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถไฟฟ้ายังไม่ครอบคลุมในหลายประเทศ นอกจากนี้ พลังงานที่ใช้ในการผลิตและการชาร์จ EV บางแห่งอาจมาจากแหล่งพลังงานฟอสซิล เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งยังคงสร้างมลพิษสูง ดังนั้น การผสมผสานเทคโนโลยีเช่น ไฮบริด, Plug-in Hybrid, FCEV และ Synthetic Fuels จึงกลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัท
Toyoda ยังระบุว่า Toyota ประสบความสำเร็จอย่างมากกับเทคโนโลยีไฮบริดมาตั้งแต่ยุค Prius ซึ่งขายไปแล้วกว่า 27 ล้านคันทั่วโลก และสามารถลดปริมาณ CO₂ เทียบเท่ากับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า BEV จำนวน 9 ล้านคัน อีกทั้งยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่น หากมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไป ส่งผลให้บริษัทเลือกที่จะคงไว้ซึ่งการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์
แม้ Toyota จะมีการทยอยเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า เช่น bZ4X ในตลาดยุโรป แต่บริษัทยังคงยืนยันว่าจะไม่ละทิ้งแนวทางไฮบริดที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาตลอดเกือบสามทศวรรษ รวมถึงการสำรวจเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างยั่งยืน
การมองหาทางเลือกที่หลากหลายในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Toyota ที่จะไม่เพียงแค่ตอบสนองต่อกระแส EV แต่ยังคำนึงถึงความต้องการที่แตกต่างของตลาดทั่วโลก การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการรักษาสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความยั่งยืน