รถเบนซ์ EV ไฟไหม้ที่เกาหลีใต้ ใช้แบตเตอรี่จีน แต่โลกจะผลิตแบตเตอรี่ EV โดยไม่พึ่งจีนได้หรือไม่?

Aug 27, 2024 at 7:35 AM

ปลุกปั้นแบตเตอรี่สร้างความเปลี่ยนแปลงโลก

การแข่งขันที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) นับเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิวัติด้านพลังงานและยานยนต์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งจีนก็ได้กลายเป็นผู้นำระดับโลกในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับ EV โดยมีบทบาทที่โดดเด่นตั้งแต่การทำเหมืองแร่ไปจนถึงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่ประเทศใดจะสามารถพึ่งพาตนเองในห่วงโซ่อุปทานแบตเตอรี่ได้ หากไม่มีความร่วมมือกับจีน

ปฎิวัติพลังงานเปลี่ยนชุมชนสู่อนาคตที่ยั่งยืน

ไฟไหม้ยานยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนความปลอดภัยใหม่

เหตุการณ์เพลิงไหม้ 140 คันรถยนต์ไฟฟ้าในอพาร์ทเมนต์เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ทำให้เกิดความกังวลสาธารณะเกี่ยวกับความปลอดภัยของแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทางการกำลังพิจารณามาตรการต่างๆ เช่น การสนับสนุนการย้ายสถานีชาร์จไปตั้งกลางแจ้ง และการจำกัดการชาร์จไม่เกิน 90% เพื่อลดความเสี่ยงจากการลุกลามของไฟ นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยข้อมูลแหล่งที่มาของแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากในเกาหลีใต้ ซึ่งพบว่า 35% ใช้แบตเตอรี่จากจีน เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของแหล่งที่มาและความปลอดภัยของแบตเตอรี่ในการผลักดันการยอมรับของผู้บริโภค

จีนชูบทบาทโดดเด่นในการผลิตแบตเตอรี่ EV

บทวิเคราะห์จาก The New York Times ระบุว่า การแข่งขันที่สำคัญในปัจจุบันคือผู้ที่สามารถผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าได้จะได้เปรียบทางเศรษฐกิจและทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นเวลานาน ซึ่งจีนนับเป็นประเทศเดียวที่ชนะการแข่งขันในช่วงที่ผ่านมา โดยจีนครอบครองแหล่งวัตถุดิบสำคัญ อาทิ โคบอลต์ ลิเทียม และแร่หายากอื่นๆ ที่เป็นส่วนผสมสำคัญของแบตเตอรี่ รวมถึงมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าประเทศอื่น ทำให้จีนสามารถผลิตแบตเตอรี่ได้ในปริมาณมากและมีต้นทุนที่ถูกกว่าคู่แข่ง

จีนก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่

ในขณะที่แบตเตอรี่ในอดีตส่วนใหญ่ใช้ธาตุ NMC (นิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลต์) ซึ่งเป็นแร่หายาก จีนได้พัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ LFP (ลิเทียม-เหล็ก-ฟอสเฟต) ขึ้นมาแทน โดยใช้วัตถุดิบทั่วไปที่มีอยู่มากมายในประเทศ เช่น เหล็กและฟอสเฟต แทนการพึ่งพาแร่หายาก ทำให้ประเทศอื่นสามารถผลิตแบตเตอรี่ได้ง่ายขึ้น แต่จีนก็ยังคงเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ LFP ทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงความเหนือกว่าของจีนในอุตสาหกรรมนี้

จีนครองความได้เปรียบด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

จีนได้ลงทุนอย่างมหาศาลในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า โดยมีมาตรการจูงใจทั้งทางภาษีและสิทธิพิเศษสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนการสนับสนุนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างเครือข่ายสถานีชาร์จที่ครอบคลุม ทำให้จีนก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการออกแบบและการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ความสำเร็จของรถยนต์ไฟฟ้าในโลกนี้ต้องอาศัยความร่วมมือกับจีนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เนื่องจากจีนเป็นผู้เล่นรายสำคัญตลอดห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมนี้

เปิดโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาแบตเตอรี่ไฟฟ้าในระดับโลก

แม้ว่าจีนจะเป็นผู้ครองความได้เปรียบในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ประเทศอื่นจะสามารถตามทันหรือแซงหน้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Benchmark Mineral Intelligence ระบุว่า จีนอาจผลิตแบตเตอรี่ได้มากกว่าประเทศอื่นๆ รวมกันถึง 2 เท่าในปี 2030 หมายความว่ายังมีโอกาสสำหรับการลงทุนและพัฒนาในอุตสาหกรรมนี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะประเทศที่มีพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถร่วมทำงานกับจีนเพื่อต่อยอดสร้างนวัตกรรมแบตเตอรี่ที่ก้าวล้ำและมีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้ในการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมพลังงานสะอาดและการเติบโตที่ยั่งยืน