พายุซัดต้นไม้โค่นทับรถ พังยับครึ่งคัน คนขับรอดระทึก

Sep 6, 2024 at 8:53 AM
ต้นไม้ยักษ์ถล่มรถ! เหตุการณ์สะเทือนขวัญชาวนครพนม หลังพายุฤดูร้อนกระหน่ำสวนสาธารณะริมแม่น้ำโขงในจังหวัดนครพนม เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจที่ชาวเมืองคุ้นชิน อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 ช่วงที่สาวใหญ่รออยู่ในรถยนต์เพื่อรอให้ญาติชื้อของ สภาพอากาศกลับแปรเปลี่ยนอย่างกะทันหัน และพายุประจำฤดูร้อนก็เข้ามาอย่างรุนแรง ส่งผลให้ต้นไม้โบราณที่ตั้งตระหง่านคุ้มครองรถคันนั้น ต้องสกัดลงมาทับรถจนรถเกิดความเสียหายหนัก โดยเจ้าของรถดังกล่าวก็รอดตายอย่างหวุดหวิด

เหตุการณ์ที่ทำให้ชาวนครพนมสะเทือนใจ

หายนะเกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา

เมื่อเวลา 11.10 น. ของวันที่ 6 กันยายน 2567 ที่จังหวัดนครพนม เกิดพายุฝนและลมกระโชกรุนแรง ราวกับเป็นการคุกคามที่บังเกิดขึ้นทันที ทำให้ต้นอินทรีย์ขนาดมหึมาอายุ 100 ปี และต้นหางนกยูงอายุ 50 ปี ซึ่งตั้งเด่นตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำโขง ถูกพัดโค่นทับรถยนต์ของนางสาวกฤษณา อายุ 43 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น ที่จอดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ส่งผลให้รถคันนั้นได้รับความเสียหายอย่างมาก โดยหลังคาและกระจกถูกทำลายไปชนิดที่ผู้ขับขี่เกือบจะต้องสูญชีวิตในเหตุการณ์นี้

ความโชคดีที่ช่วยให้รอดตาย

นางสาวกฤษณา เล่าถึงความรู้สึกตื่นตระหนกในเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าเธอรีบหลบเข้ารถเมื่อเห็นพายุกำลังจะเข้ามา แต่ไม่นานต้นไม้ขนาดมหึมาก็พังทลายลงมาทับรถ จนเธอต้องรอการช่วยเหลือจากพลเมืองดีสองคนที่มาช่วยเปิดประตูรถให้เธอออกมา ซึ่งนับเป็นครั้งที่สองที่เธอรอดพ้นอันตรายอย่างหวุดหวิด โดยครั้งก่อนหน้านี้เธอก็เคยประสบอุบัติเหตุรถแหกโค้งในจังหวัดแพร่ แต่ก็รอดตายมาได้ เธอเชื่อว่าการทำบุญช่วยเหลือผู้อื่นและสัตว์เลี้ยง เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอรอดชีวิตมาได้ทั้งสองครั้ง

การจัดการสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่

ทันทีที่ทราบเหตุการณ์ นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองนครพนมเร่งเข้าไปจัดการสถานการณ์ โดยใช้เลื่อยยนต์ตัดกิ่งและเก็บต้นไม้ที่โค่นลง พร้อมทั้งปิดกั้นการจราจรบริเวณถนนสุนทรวิจิตร ทั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการเคลียร์พื้นที่จนเสร็จสิ้นทั้งนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ ได้ส่งผลกระทบให้ชาวนครพนมต้องตระหนักถึงความแปรปรวนของสภาพอากาศในช่วงฤดูร้อน ซึ่งพายุฝนและลมกระโชกรุนแรงสามารถเกิดขึ้นได้อย่างกะทันหัน และส่งผลเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตของประชาชน จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเตรียมพร้อมและให้ความระมัดระวัง เพื่อป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาติในคราวต่อไป